ส่วนที่ 2 จะจัดจ้างเมื่อการก่อสร้างใกล้เข้ามา เพื่อทำหน้าที่คุมการก่อสร้างไปอยู่ที่หน้างานและคอยให้คำแนะนำเรื่องการตรวจรับ โดยส่วนนี้น่าจะมี 20-30 บริษัท และจะมีการตั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่เป็นนายช่างโครงการคอยดูแลโครงการที่จะทำงานควบคู่กับบริษัทที่เข้ามาด้วย
"งบประมาณในการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาทั้ง 2 ส่วนในระยะเวลา 5 ปี จะให้เป็นเปอร์เซ็น ซึ่งประเภทแรกได้ยินว่าน่าจะอยู่ที่ ประมาณร้อยละ 2-2.5 ของวงเงินโครงการ ส่วนที่ 2 น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2 เป็นไปตามระเบียบที่มีอยู่ โดยวงเงินทั้งหมดน่าจะอยู่ที่ 6-7 พันล้านบาท" นายปลอดประสพ กลาว
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้าจะมีการแต่งตั้งกรรมการชุดของนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเป็นเพียงการตั้งตำแหน่งแต่ไม่มีตัวบุคคล ซึ่งต่อไปจะมีการแต่งตั้งตัวบุคคลตามตำแหน่งให้ครบทุกหน่วยงานของน้ำ โดยจะนำข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำ เช่น ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ยังกล่าวถึงการเวนคืนพื้นที่สำหรับการก่อสร้างโครงการบริหารจัดการน้ำว่า การเวนคืนโครงการน้ำไม่ได้ต่างจากการเวนคืนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯแต่อย่างใด เพราะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาเวนคืน จะต้องมีการจ่ายเงินให้กับประชาชนตามระเบียบที่มีอยู่ ซึ่งประชาชนควรจะเข้าใจและต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ