นายปลอดประสพ กล่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาจะประกอบด้วย 10 บริษัท แบ่งออกเป็น PMEC 4 บริษัท ซึ่งจะคุมโครงการอ่างเก็บน้ำ,โครงการทางผันน้ำ, โครงการคลังข้อมูล และโครงการอื่นๆ ที่เหลือ เช่น การปรับปรุงลำน้ำ, การทำพื้นที่ปิดล้อม เป็นต้น ส่วนอีก 6 บริษัทจะเป็นบริษัทผู้คุมงานก่อสร้างในพื้นที่ แบ่งเป็น โครงการอ่างเก็บน้ำ 1 บริษัท, โครงการทางผันน้ำ 2 บริษัท และโครงการอื่นๆ 3 บริษัท ทั้งนี้ในโครงการคลังข้อมูลจะใช้บริษัทผู้คุมงานเป็นบริษัทเดียวกับบริษัท PMEC
อย่างไรก็ดี กบอ.จะเปิดให้บริษัทเอกชนเข้ารับทีโออาร์ในปลายเดือน มิ.ย.นี้ และจะให้เวลา 30 วันในการทำข้อเสนอและยื่นกลับมายังกบอ. ซึ่งคาดว่าจะได้บริษัทเอกชนมาเป็นบริษัทที่ปรึกษาภายใน 2 เดือนและร่างสัญญาต่อไป โดยจะร่วมลงนามสัญญาโดยสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี บริษัทเอกชนที่ได้รับคัดเลือกในการดำเนินโครงการ และบริษัทที่ได้รับคัดเลือกในการเป็นที่ปรึกษาในแต่ละโครงการ
ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่าจะใช้เกณฑ์ด้านเทคนิค ซึ่งจะพิจารณาโดยการใช้ระบบคะแนน โดยจะเน้นผู้ที่ประสบการณ์การทำงานทั้งในและต่างประเทศ และเน้นตัวบุคคลที่เป็นนักวิชาการจากสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนทั้งหมดกว่า 300 คน