"การเจรจาทั้ง 3 วัน ได้ผลเป็นที่สบายใจและพอใจ มีความเห็นตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย มีการลดเงิน แต่ไม่สามารถบอกได้ในเวลานี้ โดยจะนำเสนอ กบอ.วันพรุ่งนี้ และเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า...การเจรจากับบริษัทอันดับ 1 เป็นที่พึงพอใจ ไม่มีการเรียกอันดับ 2" นายธงทองกล่าว
พร้อมเชื่อว่า อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือนจึงจะเซ็นสัญญากับบริษัทเอกชนทั้ง 4 รายได้ และหากภายหลังเกิดมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันในรายละเอียดของสัญญาจนทำให้บริษัทเอกชนตัดสินใจไม่มาเซ็นสัญญา ก็จะถือว่าเป็นอันยกเลิกสัญญาการรับงานโมดูลนั้นไป ซึ่งคณะกรรมการฯ จะไม่มีการเชิญบริษัทเอกชนที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 2 เข้ามาเจรจาต่อรองราคาเพื่อรับงานแทน ซึ่งการตัดสินใจจะต้องขึ้นกับ กบอ. เพราะคณะกรรมการฯ สิ้นสุดการทำหน้าที่นับแต่วันที่ส่งรายงานสรุปการเจรจาต่อรองราคาให้กับ กบอ.แล้ว
"หากในช่วงก่อน 3 เดือนข้างหน้า การเจรจาในรายละเอียดต่างๆ เกิดมีความเข้าใจไม่ตรงกันในเรื่องของสัญญา ก็ไม่สามารถเซ็นสัญญาได้ ซึ่งทางทฤษฎีก็เป็นไปได้ ทางปฏิบัติก็เป็นไปได้...วันข้างหน้าเกิดขลุกขลัก ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกได้รับโอกาสทำสัญญานี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี วันข้างหน้าเกิดไม่มาเซ็นสัญญา เราจะไม่ย้อนกลับไปเรียกบริษัทที่ 2" นายธงทอง กล่าว
ส่วนข้อกังวลเรื่องการกู้เงินตามกำหนดภายใน 30 มิ.ย.นั้น นายธงทอง ยืนยันว่าจะสามารถกู้เงินได้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 และการกู้เงินดังกล่าวจะไม่ใช่เป็นการกู้เงินมากองไว้เฉยๆ อย่างแน่นอน
"แม้จะกำหนดกรอบการกู้เงินในวันที่ 30 มิ.ย แต่ไม่ได้เป็นการกู้เงินมากองไว้ แต่เป็นการบอกให้รู้ว่า เราได้กันเงินจำนวนนี้ และจะติดตามการใช้เงินในงวดต่างๆ ส่วนเรื่องดอกเบี้ย แม้จะกันเงินตามกรอบไว้ แต่ระหว่างที่ยังไม่เบิกใช้ ดอกเบี้ยก็จะไม่เดิน" นายธงทองระบุ