อันดับ 2 นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศเพื่อสานความสัมพันธ์และเพื่อส่งเสริมการลงทุน 22.89% เพราะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ฯลฯ อันดับ 3 รัฐบาลสามารถผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 20.67% เพราะรัฐบาลมีแผนและรายละเอียดการใช้งบประมาณที่ชัดเจน อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ฯลฯ
ส่วนเรื่องราวหรือเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลลดลง อันดับแรก กรณีโครงการรับจำนำข้าว 47.52% เพราะจากกระแสข่าวที่ออกมาทำให้เห็นความไม่โปร่งใสและไม่สามารถบอกตัวเลขการขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทได้ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่สามารถแก้ปัญหาสินค้าแพง ค่าครองชีพสูง 18.48%เพราะ รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ดีพอ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ของกิน ของใช้ยังมีราคาสูงโดยเฉพาะราคาไข่ ฯลฯ อันดับ 3 ไม่สามารถแก้ปัญหาไฟใต้ 15.86%เพราะ ยังมีข่าวการก่อการร้ายในพื้นที่ภาคใต้เกิดขึ้นทุกวัน ประชาชนในพื้นที่ต้องเสี่ยงอันตราย ฯลฯ
เมื่อถามถึงเรื่องหรือเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อฝ่ายค้านเพิ่มขึ้น พบว่า อันดับแรก การตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว 42.00% เพราะสามารถตรวจสอบการทุจริตและนำเสนอข้อมูลต่างๆให้ประชาชนรับรู้ข้อเท็จจริงได้มากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 2 การกู้เงินของรัฐบาล 21.86%เพราะ จากการอภิปรายที่ผ่านมาฝ่ายค้านมีข้อซักถามแต่รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามให้ชัดเจนได้ ฯลฯ อันดับ 3 การคัดค้านเรื่องนิรโทษกรรม 16.87%เพราะ เป็นประเด็นสำคัญที่กระทบต่อคนบางกลุ่มและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ฯลฯ
ส่วนเรื่องราวหรือเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อฝ่ายค้านลดลง อันดับแรก คือ การค้านทุกเรื่อง 42.90%เพราะ ทำให้ภาพลักษณ์ของฝ่ายค้านดูไม่ดี เป็นการค้านที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ฯลฯ
อันดับ 2 การกล่าวหารัฐบาลโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน กล่าวหาแบบลอยๆ 22.05%เพราะ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ไม่ดีพอ เมื่อไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันก็ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ ฯลฯ อันดับ 3 เล่นเกมการเมือง นำคดีสำคัญมาโยงเป็นเรื่องร้อนทางการเมือง 15.11%เพราะ ทำให้ประชาชนรู้สึกเบื่อและไม่อยากติดตามข่าวสารทางการเมือง ไม่เชื่อมั่นต่อนักการเมือง ฯลฯ
อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,303 คน ระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน 2556