NGO เตรียมลุยฟ้องฟ้องคลังถ่านหินสมุทรสาครเพิ่ม หลังชุมชนท่าทรายชนะคดี

ข่าวทั่วไป Thursday July 18, 2013 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เผยเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอให้มีคำสั่งยกเลิกการประกอบกิจกิจการที่เกี่ยวข้องกับถ่านหินในพื้นที่ จ.สมุทรสงครามของผู้ประกอบการรายอื่นเพิ่มเติม หลังจากวันนี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้บริษัท เทคนิทีม(ประเทศไทย) จำกัด ยุติการประกอบกิจการขนถ่าย ขนส่ง และกักเก็บถ่านหิน ตลอดจนก่อสร้างท่าเทียบเรือเพื่อขนส่งถ่านหิน บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร
"เราจะใช้คำพิพากษาคดีนี้เป็นต้นแบบในการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย น่าจะเป็นคิวต่อไป ขอเวลาศึกษาคำพิพากษาอีกสักเดือนกว่าๆ" นายศรีสุวรรณ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คดีนี้ตนเองได้รับมอบอำนาจจากชาวบ้าน คือ นายทองนาค เสวกจินดา ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ซึ่งได้ยื่นฟ้ององค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ที่ 1, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 2 และสำนักงานขนส่งทางน้ำ สาขาสมุทรสาคร ที่ 3 ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ เนื่องจากละเลยต่อหน้าที่ โดยปล่อยให้เอกชนประกอบกิจการขนถ่าย ขนส่ง และกักเก็บถ่านหิน ตลอดจนก่อสร้างท่าเทียบเรือเพื่อขนส่งถ่านหิน บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร โดยไม่ได้รับอนุญาต

ช่วงกลางปี 54 ชาวบ้านใน อ.เมืองสมุทรสาคร อ.บ้านแพ้ว และ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กว่า 1,000 คน เคยออกมารวมตัวชุมนุมปิดถนนพระราม 2 บริเวณปากทางเข้าตัวเมือง เพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ แก้ไขปัญหาผลกระทบจากการดำเนินกิจการของโรงงานเก็บถ่านหินที่มีต่อการทำประมงชายฝั่ง ซึ่งต่อมาผู้ว่าฯ มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงานและคลังถ่านหินทั้งหมด

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นอกจากกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาในวันนี้ไปแล้ว ยังมีกรณีที่จะพิจารณายื่นฟ้องคือ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS) ซึ่งกลับมาเปิดดำเนินงานที่โรงงาน ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร อีกครั้ง หลังจากบริษัทฯ ได้ข้อสรุปถึงวิธีการ แนวทางปฏิบัติ มาตรการ และขั้นตอนในการแก้ไขปัญหา การประกอบกิจการถ่านหินตามที่ จ.สมุทรสาครกำหนดร่วมกับองค์กรต่างๆ ตามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ(MOU) เรื่อง การบริหารงานจัดการสิ่งแวดล้อมและป้องกันปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการถ่านหิน ลงวันที่ 2 เม.ย.56 และเมื่อวันที่ 29 เม.ย.56 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งระงับการประกอบกิจการถ่านหินของบริษัทฯ และให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่อไป

อนึ่ง ศาลปกครองกลางในวันนี้ระบุว่าให้ อบต. ท่าทราย และ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงานและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขตามอำนาจหน้าที่สั่งห้ามไม่ให้ผู้ร้องสอดใช้อาคารที่ก่อสร้างประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับการทำเชื้อเพลิงก้อนหรือเชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากถ่านหินในท้องที่ตำบลท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

ส่วนคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีให้มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะพ้นระยะเวลาในการอุทธรณ์หรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ขณะที่นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงกรณีที่ศาลปค.สั่งเลิกกิจการถ่านหินสมุทรสาครว่า กิจการดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับโรงถ่านหินของบริษัท เพราะของบริษัทดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกำหนด โดยบริษัทมีคลังสินค้าและโรงงานคัดแยกถ่านหินในจ.สมุทรสาคร 1 โรง แม้ว่าจะอยู่อำเภอเดียวกันแต่คนละตำบล ซึ่งคดีของกิจการดังกล่าวอยู่ในศาลปกครองมานานแล้ว

"กิจการของเรายังปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราเลย ทุกวันนี้เราทำที่อยุธยาเยอะ และที่สมุทรสาครก็ทำด้วย" นายพนม กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ