นางปวีณา กล่าว่ว่า มีนโยบายให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯทำงานได้อย่าง 'รับ รุก และรวดเร็ว' รับ คือ รับรู้รับทราบปัญหา รุก คือทำงานเชิงรุก และออกไปช่วยเหลือ ท่านนายกฯมีนโยบายและจัดรถโมบายไปช่วยเหลือ 500 คันเพื่อให้ช่วยเหลือได้ทันท่วงทีในกรณีที่เขาขอความช่วยเหลือ ประจำอยู่ที่จังหวัด บ้านพักเด็กหรือที่เป็นเครือข่าย เมื่อได้รับร้องทุกข์มารถก็จะเข้าให้การช่วยเหลือ เช่น บ้านพักเด็ก หรือนักจิตวิทยาภายใต้การปกครองของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ กรณีเรื่องของแรงงานก็ส่งที่กระทรวงแรงงานได้ เพราะการทำงานช่วยเหลือสังคม ไม่ใช่หน้าที่คนใดคนหนึ่งหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ทุกหน่วยงานต้องร่วมกัน ประชาชนต้องร่วมกันปัญหาจึงจะหมดไป
ตามนโยบายศูนย์ OSCC จะแก้ปัญหา 4 ด้าน คือ ท้องไม่พร้อม แรงงานเด็ก ค้ามนุษย์ และครอบครัว แต่ในศูนย์ OSCCของสำนักงานใหญ่ จะให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง มีพนักงานหมุนเวียนกันและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ,191,ปราบปรามการค้ามนุษย์, เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนอยู่ที่นี่ด้วย นอกจากนี้เรายังมีนักกฎหมายของกระทรวงฯคอยให้คำปรึกษาเรื่องข้อกฎหมาย มีเอ็นจีโอ มูลนิธิต่างๆที่เป็นเครือข่ายเราเข้ามาอบรมด้วย หรือชุมชน เราก็จะให้ชุมชนเลือกขึ้นมา เช่น ผู้สูงอายุ เพื่อให้เขามีงานทำ การอบรมเมื่ออบรมเสร็จแล้ว จะได้บัตรเจ้าพนักงานเหมือนกับบัตรช่วยเหลือชุมชน ซี่งทำให้เราสามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือได้ตามกฎหมาย เพราะการเข้าไปช่วยเหลือต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งคนก็จะเป็นคนที่เป็นเครือข่ายของเรา