สำหรับการเคลื่อนย้ายเครื่องบิน แอร์บัส เอ 330 — 300 ลำดังกล่าวนั้น บริษัทฯ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวันที่ 9 ก.ย. หลังจากคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ ซึ่งมีนายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน เป็นประธาน ได้ดำเนินการเก็บข้อมูลและอนุญาตให้เคลื่อนย้ายเครื่องบินได้ โดยคาดว่าการเคลื่อนย้ายเครื่องบินลำดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย. 56
สำหรับผู้โดยสารที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 17 คน ขณะนี้แพทย์ได้อนุญาตให้ผู้โดยสารออกจากโรงพยาบาลแล้ว จำนวน 14 คน เหลืออีกเพียง 3 คน ที่ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
นายสรจักร กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯได้นำกระเป๋าสัมภาระและสิ่งของต่างๆของผู้โดยสาร ทั้งที่อยู่ในห้องโดยสารและใต้ท้องเครื่องบิน ลำเลียงออกจากเครื่องบินลำดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และได้ทยอยจัดส่งกระเป๋าสัมภาระและสิ่งของให้แก่ผู้โดยสารแล้วประมาณ 90% และส่วนที่เหลือผู้โดยสารแจ้งว่าจะรับสัมภาระด้วยตนเอง
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าลูกเรือในเที่ยวบินดังกล่าววิ่งหนีก่อนผู้โดยสารนั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าทั้งนักบินและลูกเรือได้มีการปฏิบัติตามกฎการบินในการอพยพผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด ดังนี้ กัปตันได้ประกาศให้ผู้โดยสารทราบถึงการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน โดยทางออกฉุกเฉินเฉพาะประตูด้านซ้ายของเครื่องบินเท่านั้น โดยมีลูกเรือดูแลช่วยเหลือผู้โดยสารเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ
ลูกเรือชุดแรกได้ออกมาก่อนเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารที่จะออกตามลงมา เมื่อผู้โดยสารลงมาถึงพื้นดินแล้วจะต้องออกไปให้ไกลจากตัวเครื่องบิน ซึ่งมีลูกเรือเป็นผู้ชี้นำไปยังจุดที่ปลอดภัย, เมื่ออพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบินหมดแล้ว นักบินและหัวหน้าลูกเรือจะทำการตรวจเครื่องบินทั้งลำอีกครั้ง เพื่อดูว่ายังมีผู้โดยสารที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่บนเครื่องบินหรือไม่ เมื่อไม่พบว่ามีผู้โดยสารอยู่บนเครื่องบินแล้ว นักบินและหัวหน้าลูกเรือได้ออกจากเครื่องบินเป็นชุดสุดท้าย
สำหรับการดูแลผู้โดยสารที่ออกมาจากเครื่องบินแล้ว พนักงานฝ่ายบริการภาคพื้นจะดูแลต่อโดยการนำผู้โดยสารไปยังอาคารผู้โดยสาร ซึ่งในวันดังกล่าวมีข้อขัดข้องทั้งจากการบินไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าพื้นที่เกิดเหตุ จึงทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับบริการอย่างทันท่วงที อีกทั้งผู้โดยสารบางกลุ่มไม่ได้รับความสะดวกสบาย ซึ่งบริษัทฯ ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้