ลักษณะดังกล่าวข้างต้น ทำให้เกิดฝนตกชุกกระจายในพื้นที่ภาคกลาง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถานการณ์น้ำ ล่าสุด(20 ก.ย.) เวลา 13.00 น. ที่สถานี C.2 อ.เมือง นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,392 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 4 เมตร ซึ่งกรมชลประทาน จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ประมาณ 1,778 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับในระยะนี้ ยังไม่มีผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูง จึงส่งผลดีต่อการผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทยได้เร็วยิ่งขึ้น
แนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมา ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากน้ำที่ไหลหลากจากตอนบน ประกอบในพื้นที่ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม ซึ่งกรมชลประทาน ได้ให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว