โดยในสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ไปตรวจที่คลอง 6 วา สายล่าง ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการในจุดสำคัญ และคงต้องขอให้มีการรายงานตัวเลขปริมาณน้ำในแต่ละประตูระบายน้ำว่ามีขีดความสามารถรองรับปริมาณน้ำได้มากน้อยแค่ไหนจะได้มีการเตรียมตัว และแผนงานโดยเฉพาะในพื้นที่ส่วนของจังหวัดปทุมธานีและเขตติดต่อ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้ระบายน้ำมายังฝั่งตะวันออกเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องการขยายคลองนั้นจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูอีกครั้งหนึ่ง
พร้อมระบุถึงการเตรียมรับมือหลังกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าจะมีพายุอีกหลายลูกผ่านเข้ามายังประเทศไทยว่า เบื้องต้นสั่งการให้ทาง สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) สำรวจพื้นที่ รวมทั้งเร่งแผนการระบายน้ำในส่วนของพื้นที่ท้ายเขื่อน เพราะปัจจุบันในบางพื้นที่ของภาคเหนือยังมีความต้องการน้ำในเขื่อน เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนที่จำเป็นต้องใช้ในส่วนของชลประทานยังมีไม่มาก ขณะที่ปริมาณฝนกลับไปตกในพื้นที่ท้ายเขื่อนจำนวนมากทำให้เกิดความกังวล จึงจำเป็นต้องเร่งระบายในส่วนของปลายน้ำ โดยทาง กบอ.ก็จะเร่งแก้ปัญหาร่วมกันโดยเร็ว
และในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ทางรมว.มหาดไทยจะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งจะมีการสอบถามถึงความพร้อม ขณะเดียวกันก็จะดูในจุดสำคัญที่ต้องลงไปเร่งตรวจ โดยทั้งหมดพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ และมีการดำเนินการไปเบื้องต้นแล้วจากงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งระบบต่างๆ ก็มีการเตรียมการไว้แล้ว นอกจากนั้นในเรื่องการบริหารจัดการน้ำในลักษณะซิงเกิลคอมมานในเรื่องการรวบรวมข้อมูลก็ได้รวบรวมข้อมูลเป็นศูนย์เดียวแล้ว รวมทั้งได้มีการประกาศแผนการรับมือในส่วนการป้องกันสาธารณภัยเรียบร้อยแล้ว โดยการตั้งศูนย์ส่วนหน้า ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการสั่งการสถานการณ์ทั้งหมด