อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ต่อเนื่อง ขณะนี้ตนรู้สึกเป็นห่วงระดับน้ำเหนือที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเพราะเป็นพื้นที่รับน้ำจาก จ.ปทุมธานี ที่ปล่อยมาทางคลอง 3 และคลองระพีพัฒน์ฯ และเป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมทุกปี จึงได้สั่งการให้ยกประตูระบายน้ำประเวศบุรีรมย์ ตอนกระทุ่มเสือปลา เพิ่มอีก 50 เซนติเมตร เป็น 1.50 เมตร จากเดิมที่เปิดอยู่ระดับ 1 เมตร และให้เปิดประตูอีกบานที่ปิดอยู่ขึ้น 30 เซนติเมตร เพื่อเร่งระบายน้ำในฝั่งตะวันออกลงอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 และลงแม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะมีการประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและปรับประตูระบายน้ำตามสถานการณ์ รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมกระสอบทรายและไม้ไว้คอยให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอดเวลา
ตามที่มีการพยากรณ์อากาศระบุว่า ในวันที่ 28-29 ก.ย. จะเกิดฝนตก และต้นเดือน ต.ค. จะมีพายุเข้าประเทศไทยนั้น กรุงเทพมหานครได้ติดตามสถานการณ์และมีการประสานข้อมูลกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ใกล้เคียงปี 2554 อีกทั้งปริมาณน้ำในเขื่อนยังอยู่ในระดับที่รับได้
สำหรับคลองประเวศบุรีรมย์หรือคลองพระโขนงเป็นคลองสายหลักที่ใช้เร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยผ่านสถานีสูบน้ำพระโขนงที่มีกำลังสูบ 215 ลบ.ม.ต่อวินาที และระบายออกแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่สถานีสูบน้ำประเวศบุรีรมย์ ของกรมชลประทาน ที่มีกำลังสูบ 60 ลบ.ม.ต่อวินาที
ด้านศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า น้ำเหนือที่ปล่อยมาวัดได้ 2,180 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 0.79 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยน้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลา 14.24 น. คาดการณ์ 0.81 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และอีกครั้งเวลา 20.29 น. คาดการณ์สูง 0.79 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สาเหตุที่ระดับน้ำไม่สูงมาก เพราะน้ำทะเลในช่วงนี้ไม่หนุนสูง และปริมาณฝนยังมีไม่มาก
ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์พายุดีเปรสชั่นลูกใหม่ที่คาดว่าจะเข้าประเทศไทยในสัปดาห์หน้า ทำให้ด้านเหนือของประเทศมีฝนตกมากขึ้น ส่วนประตูระบายน้ำขณะนี้ยังไม่มีการเปิดระบายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ขณะที่ประตูระบายน้ำคลองสอง เช้าวันนี้ สูงสุดวัดด้านนอกประตูระบายน้ำ อยู่ที่ 1.45 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับวิกฤติอยู่ที่ 1.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ กทม.ควบคุมได้ ส่วนประตูน้ำยังคงเปิดอยู่ที่ระดับ 20 เซนติเมตร
ส่วนที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ที่รับน้ำด้านตะวันตกและจาก จ.นนทบุรี ระดับน้ำด้านนอกอยู่ที่ 85 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับวิกฤติอยู่ที่ 1.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งทั้ง 2 แห่งยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าห่วง สำหรับฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ถึงเช้านี้ ปริมาณฝนสะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 29 มิลลิเมตร กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า วันนี้พื้นที่กรุงเทพฯ จะยังมีฝนตกร้อยละ 80 ของพื้นที่ แต่ลักษณะจะเป็นฝนอ่อน