ทั้งนี้ มาตรการที่เตรียมไว้ครอบคลุมอย่างครบวงจร ทั้งมาตรการป้องกัน การให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟูในกรณีที่เกิดเหตุขึ้น โดยกลุ่มไทคอน จัดให้มีการเฝ้าติดตามตรวจสอบระดับน้ำในคลองบริเวณรอบโครงการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในพื้นที่วังน้อย และพื้นที่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติทุกเช้าและเย็น ตลอดจนติดตามประสานงานด้านการจัดสรรน้ำ ข้อมูลภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม และปริมาณน้ำฝนและน้ำหลากกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด อาทิ กรมชลประทาน เทศบาล และองค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) เพื่อสามารถให้ข้อมูลแก่ลูกค้าในโครงการได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนายปธาน สมบูรณสิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค หรือ TPARK ผู้พัฒนาคลังสินค้าให้เช่าในเครือ TICON กล่าวว่า จากประสบการณ์น้ำท่วมในปี 54 โครงการได้รับผลกระทบมากสุด คือ โครงการ TPARK วังน้อย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนั้น บริษัทได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรสูงกว่า 2 เมตรใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันน้ำและก่อสร้างขึ้นอย่างแข็งแรง จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเข้าในโครงการของ TPARK อย่างแน่นอนในปีนี้
นอกจากนั้น ภายในโครงการ TPARK วังน้อย ยังได้จัดให้มีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการติดตั้งระบบระบายน้ำที่มีประตูเปิด-ปิดทางเข้า-ออกของน้ำทางเดียว ซึ่งจะสามารถปิดประตูระบายน้ำได้ทันที เมื่อระดับน้ำจากภายนอกสูงขึ้น รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดสำคัญ นอกจากนี้ ทาง TPARK ยังได้มีการตรวจสอบสภาพของระบบป้องกันน้ำท่วมเพื่อให้พร้อมใช้งานเสมอ