"ศาลปกครองกลาง โดยองค์คณะพิเศษ 19/2556 ได้มีคำสั่งยกคำขอกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 เนื่องจากในชั้นไต่สวนมูลฟ้องยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้ศาลเห็นได้ว่ามติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ดังกล่าวมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย" นายไพโรจน์ มินเด็น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง กล่าว
โฆษกศาลปกครอง กล่าวว่า ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนดังกล่าวเป็นการทยอยปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 13 เดือน และกระทรวงพลังงานก็ได้มีโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน โดยครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน และร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร สามารถส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อลงทะเบียนการซื้อก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนในราคาเดิม
การปรับขึ้นราคาขายปลีกแม้จะมีผลกระทบต่อประชาชนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงบางส่วน และเป็นผลกระทบที่ไม่ถึงขนาดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผันของสภาวะทางเศรษฐกิจแก่ประชาชน กรณีจึงมิใช่ความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง และการที่ศาลจะมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวอาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะ เพราะจะเกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ใช้น้ำมันจากการที่รัฐต้องนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนผู้ใช้ก๊าซ LPG ให้ได้ใช้ในราคาที่ถูก ทำให้ราคาน้ำมันสูงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเกิดการลักลอบนำก๊าซ LPG ไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากราคาก๊าซ LPG ในประเทศมีราคาถูกเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการลักลอบนำก๊าซ LPG ไปใช้ผิดประเภทด้วย ตามที่ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 4 ได้ให้ถ้อยคำต่อศาล ประกอบเอกสารที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ถึงที่ 5 นำส่งต่อศาล
"ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า" โฆษกศาลปกครอง ระบุถึงคำสั่งศาลปกครอง
โฆษกศาลปกครอง แจ้งว่า คดีดังกล่าว ศาลมีเพียงคำสั่งยกคำร้องขอกำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าเท่านั้น ในส่วนของการพิจารณาว่ามติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จะเป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ศาลคงจะต้องดำเนินการพิจารณาคดีตามกระบวนการที่กำหนดไว้ต่อไป