นายปลอดประสพ กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องป้องกันและแก้ไขเรื่องน้ำท่วมเพราะมีที่ตั้งใกล้เส้นศูนย์สูตรจึงทำให้มีปริมาณน้ำมาก ประกอบกับเป็นพื้นที่ที่มีมรสุมเกิดขึ้นบ่อยครั้งจึงมีโอกาสสูงที่จะเกิดน้ำท่วม และบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนสามเหลี่ยมหัวกลับ ซึ่งมีกรุงเทพฯอยู่ปลายสามเหลี่ยม เพราะน้ำปริมาณมากจะมาจากภาคเหนือและตอนบนแม่น้ำเจ้าพระยา จึงส่งผลให้กรุงเทพและปริมณฑลมีน้ำมากและยังมีภาวะน้ำทะเลหนุน
"พูดได้ว่ากรุงเทพเป็นเหยื่อของน้ำท่วมอยู่แล้วจึงจำเป็นต้องทำโครงการป้องกันน้ำท่วม แต่ปัญหาของประเทศไทยคือการไม่มีระบบระบายน้ำ มีเพียงระบบส่งน้ำที่จะทยอยให้น้ำไปช้าๆ แต่เรากลับเอามาใช้ระบายน้ำที่ต้องให้น้ำไหลเร็วซึ่งหลักแตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องใช้เงิน 3.5 แสนล้านบาทสร้างระบบระบายน้ำ" นายปลอดประสพ กล่าว
การกู้เงินมาดำเนินโครงการนี้ถือเป็นเงินจำนวนน้อยและมีความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อมีน้ำท่วมปี 54 ที่มีมูลค่าความเสียหายที่นับได้ 1.4 ล้านล้านบาท และยังไม่สามารถนับได้อีกมาก
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดได้ลงพื้นที่ให้ข้อมูลกับประชาชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบความเดือดร้อนความเสียหายที่อาจเกิดจากการดำเนินโครงการดังกล่าวด้วย เพื่อจะได้นำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจและปรับปรุงการดำเนินโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
ด้านนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่หลักในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยมีกำหนดการจัดรับฟังความเห็นประชาชนเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ไปจนถึงวันที่ 6 ธ.ค. ใน 35 กลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดที่จังหวัดลำพูนเป็นที่แรก โดยในส่วนของการดำเนินการนั้นเป็นหน้าที่ของสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับมอบหมาย ในส่วนผู้ว่าฯและหน่วยงานในจังหวัดจะมีการดำเนินงาน 4 ส่วน ได้แก่ การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย การกำหนดสถานที่จัดเวที การรักษาความสงบและจัดเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยร่วมกับตำรวจ เพราะมีความกังวลว่าจะมีมือที่สามที่พยายามทำให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง และต้องการล้มรัฐบาลมาก่อกวน