ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วมี 22 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง กำแพงเพชร อุทัยธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชุมพรประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ยโสธร นครสวรรค์ จันทบุรี ระยอง กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบูรณ์ ชัยนาท สิงห์บุรี และสระแก้ว
อธิบดี ปภ.กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาทำให้ทราบว่าพายุนารีได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้ว และจะอ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นและลมแรง จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาใน 17 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร หนองคาย และบึงกาฬ ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและลมแรง โดยติดตามพยากรณ์อากาศประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที หากมีน้ำท่วมสูงให้ขนย้ายสิ่งของ และเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นที่สูง พร้อมเตรียมอพยพไปอาศัยในพื้นที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ ตนเองได้ประสานกับผู้ว่าฯ 17 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา เขต 6 ขอนแก่น เขต 7 สกลนคร เขต 13 อุบลราชธานี เขต 14 อุดรธานี เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและลมแรงจากอิทธิพลพายุนารี โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะที่ลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา จุดอ่อนน้ำท่วมขัง พื้นที่เขตเศรษฐกิจและชุมชน พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง
สำหรับผู้ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป