สำหรับเงื่อนไขในข้อตกลงความช่วยเหลือแบบให้เปล่านั้น กรมชลประทานจะต้องร่วมในการจัดหาบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างและบริษัทผู้จำหน่ายเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอธิบดีกรมชลประทานได้เดินทางไปลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัทผู้รับจ้าง คือ บริษัท Maeda Corporation ราคางานก่อสร้าง 1,434 ล้านเยน หรือประมาณ 454 ล้านบาท และบริษัทผู้จำหน่ายเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ คือ บริษัท Kubota Corporation ในวงเงิน 193 ล้านเยน หรือประมาณ 61 ล้านบาท ณ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 5-9 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา
ส่วนรายละเอียดงานก่อสร้างโครงการป้องกันน้ำท่วมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำป่าสักของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในครั้งนี้ ประกอบด้วย ประตูน้ำกระมัง 1 แห่ง ประตูน้ำหันตรา 1 แห่ง คันกั้นน้ำคลองหันตรา 484 เมตร และเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่จำนวน 10 เครื่อง ระยะเวลาดำเนินงานโครงการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 — พฤศจิกายน 2557 ทั้งนี้ กรมชลประทานได้การสั่งให้บริษัทผู้รับจ้างเข้าดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำทั้งสองแห่งตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นมา
"รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอให้ความช่วยเหลือมายังรัฐบาลไทยที่จะดำเนินโครงการป้องกันน้ำท่วมในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำป่าสัก เนื่องจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 ทำให้ศูนย์กลางการเก็บและการกระจายสินค้าภาคอุตสาหกรรมได้รับความเสียหาย แม้จะมีคลองข้าวเม่าซึ่งตั้งอยู่ต้นน้ำของคลองกระมังและคลองหันตราที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำป่าสักทำหน้าที่เป็นทางระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสักไปยังแม่น้ำป่าสัก แต่ด้วยในปี 2554 ประตูระบายน้ำคลองข้าวเม่าถูกปิด เพราะความสูงของประตูไม่เพียงพอที่จะป้องกันน้ำไหลย้อนกลับจากแม่น้ำป่าสักได้ และเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย ดังนั้น ประตูระบายน้ำทั้งสองแห่งที่สร้างขึ้นนี้ จะมีส่วนช่วยลดความเสียหายพื้นที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสักในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย"นายยุคล กล่าว