ปัจจุบัน (24 ต.ค.) เขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำในอ่างฯ จำนวน 299 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 95 ของความจุอ่างฯ ซึ่งภายหลังจากเกิดพายุ “นารี" พาดผ่านบริเวณจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงวันที่ 16 — 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ท้ายเขื่อน และมีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำท่วม กรมชลประทาน จึงได้ทำการชะลอน้ำจากด้านเหนือไว้ในเขื่อนลำตะคอง โดยปิดการระบายตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. 56 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการระบายน้ำแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำในลำตะคอง โดยใช้ประตูระบายน้ำมะเกลือใหม่ และประตูระบายน้ำกุดหิน ควบคุมและชะลอน้ำให้ไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างให้น้อยที่สุด จากนั้นเมื่อน้ำไหลมาถึงอาคารแบ่งน้ำละลมหม้อ ที่กรมชลประทานก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2554 จะแบ่งน้ำส่วนหนึ่งเข้าสู่ลำบริบูรณ์ในเกณฑ์ประมาณ 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งแม้จะเกินความจุของคลองที่จะรับได้(รับได้สุงสุดประมาณ 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) แต่กรมชลประทาน ได้ใช้คลองผันน้ำ ที่ก่อสร้างเมื่อปี 2554 ผันน้ำในเกณฑ์ประมาณ 28 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ให้ไหลไปลงแก้มลิงบึงพุดชา ก่อนไหลลงสู่ลำเชียงไกร และแม่น้ำมูล ที่อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เป็นลำดับ
นอกจากนี้ ยังควบคุมน้ำส่วนหนึ่งให้ไหลลงลำตะคอง ตอนล่างผ่านลงสู่ตัวเมืองโคราช รวมกับปริมาณน้ำท่าในพื้นที่ด้านท้ายอาคารแบ่งน้ำละลมหม้อ ในเกณฑ์ประมาณ 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามศักยภาพที่รับน้ำได้ของลำตะคอง ที่ไหลผ่านเขตเทศบาลนครนคราชสีมา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา อาทิ ถนนมิตรภาพซอย 4 หมู่บ้าน VIP เป็นต้น โดยไม่กระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจหลัก
อนึ่ง ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาต่างๆ ของแม่น้ำมูล จากลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำมูลบน และลำแชะ จะไหลลงสู่แม่น้ำมูล และเคลื่อนต่อไปที่อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันมีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งต่ำประมาณ 30 เซนติเมตร โดยคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูล จะเพิ่มสูงสุดอีกประมาณ 30 เซนติเมตร จากระดับปัจจุบัน ในช่วงวันที่ 28 — 30 ต.ค.นี้
ในส่วนของการป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบริเวณโบราณสถานปราสาทหินพิมาย ที่แต่เดิมได้มีการวางกระสอบป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งสูงประมาณ 70 เซนติเมตรไว้แล้วนั้น กรมชลประทาน พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา หน่วยทหารในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเสริมกระสอบทรายให้สูงขึ้นมาอีก 30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำที่จะสูงเพิ่มขึ้น ไม่ให้ไหลเข้าท่วมโบราณสถานแห่งนี้ต่อไปแล้ว