(เพิ่มเติม) นายกฯ พร้อมเจรจาเขมรหลังศาลโลกไม่ตัดสินเขตแดนพื้นที่พิพาทแนะร่วมมือดูแลพระวิหาร

ข่าวทั่วไป Monday November 11, 2013 19:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรชัย พลาดิศัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์หลังจากศาลโลกอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายวันนี้ว่า ศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดนที่เป็นพื้นที่ข้อพิพาทที่นำไปสู่การยื่นฟ้องคดีครั้งนี้ เว้นแต่ในบริเวณที่แคบมากๆ
"ศาลเน้นคำว่าพื้นที่เล็กอยู่มาก ซึ่งขณะนี้พื้นที่นี้กำลังคำนวณอยู่ ศาลโลกไม่ได้ระบุว่าแผนที่ 1:2 แสนเป็นส่วนหนึ่งของคำตัดสินในปี 2505 ที่ผูกพัน ซึ่งตรงนี้สำคัญมากๆ ทั้งนี้ ศาลยังได้แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันดูแลมรดกโลก"นายวีรชัย ระบุ

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ศาลโลกรับฟังข้อต่อสู้ของไทย โดยตัดสินในขอบเขตของคำพิพากษาเดิมเมื่อ พ.ศ.2505 ซึ่งไม่ได้มีการตัดสินในประเด็นเขตแดน เพราะอยู่นอกเหนือคำพิพากษาเดิม และศาลไม่รับพิจารณาข้อเรียกร้องของกัมพูชาให้ชี้เขตแดนบนพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม. และแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน

ทั้งนี้ ศาลโลกรับตีความเฉพาะพื้นที่ใกล้เคียงตัวปราสาทพระวิหาร ด้วยการอธิบายว่าเป็นพื้นที่เล็กมากตามสภาพภูมิศาสตร์ที่ประกอบเป็นปราสาทพระวิหาร ไม่รวมภูมะเขือ พร้อมทั้งแนะนำให้ทั้งสองประเทศหารือกับโดยกลไกทวิภาคี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลสั่งให้ทีมที่ปรึกษากฎหมายศึกษารายละเอียดและสาระสำคัญของคำพิพากษาไปประกอบการดำเนินการของรัฐบาลต่อไป ซึ่งไทยและกัมพูชาจะหารือเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทภายใต้กลไกที่มีอยู่ให้เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย และคำนึงถึงกระบวนการขั้นตอนกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ การดำเนินการของรัฐบาลจะรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศชาติ เกียรติภูมิ และความเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) พร้อมทั้งย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้รักษาความสงบแนวชายแดน รักษาอธิปไตย ดูแลประชาชนในพื้นที่เพื่อสันติภาพและสันติสุข

ทั่งสองประเทศจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อประโยชน์สุขของทั้งสองประเทศ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะดำเนินการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ