โอกาสเดียวกันนี้ทหารรักษาพระองค์จะได้เฝ้าฯ ถวายคำสัตย์ปฏิญาณด้วยรัฐบาลได้รับทราบข่าวที่เป็นมงคลนี้ด้วยความปิติยินดี และจะได้มอบหมายให้สื่อมวลชนของรัฐกับทั้งขอความร่วมมือสื่อภาคเอกชนถ่ายทอดพระราชพิธีสำคัญดังนี้ทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนได้ชมพระบารมีโดยทั่วถึงกัน
อนึ่ง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานเพิ่มเติมว่าตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ประสานทุกส่วนราชการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ“พระทรงเป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์"ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 1-10 ธ.ค.เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณที่ทรงได้รับยกย่องจากสถาบันและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น พระราชสมัญญาต่างๆที่มีผู้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย รางวัล ปริญญากิตติมศักดิ์ และสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เห็นตระหนักชัดเจนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรามิได้ทรงเป็นเพียงแต่พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระราชภาระหลักเท่านั้น หากแต่ยังทรงมีความรู้เชี่ยวชาญและทรงพระปรีชาสามารถในสรรพวิทยาการหลากแขนงได้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนคนไทยมาตลอดเวลากว่าหกสิบปีการเตรียมการจัดนิทรรศการได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกกระทรวง ทบวง กรม จึงขอเชิญชวนให้ประชาชน ได้ร่วมกิจกรรมในงานนิทรรศการดังกล่าว เพื่อชื่นชมกับพระบารมีและพระราชกรณียกิจที่เป็นมิ่งมงคล
นอกจากนั้น ส่วนราชการต่างๆ และหน่วยงานต่างๆ ภาครัฐและภาคเอกชนยังได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอีกมากมายหลายรายการ เช่น การจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลในค่ำวันที่ 5 ธ.ค.เวลา 19.29 น. ณ ท้องสนามหลวงและสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ กระทรวงกลาโหมจัดการแสดงวงโยธวาทิต “1 คีตมหาราชาในดวงใจ โยธวาทิตไทยสู่สากล" และการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ “ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน ครั้งที่ 6" กระทรวงพลังงานจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเรื่อง “ พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย" สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สำนักงาน ก.พ.จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เป็นต้น
ในส่วนของรัฐบาล นอกจากการจัดนิทรรศการ“พระทรงเป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์"ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในวันที่ 7 ธ.ค.56 เวลา 18.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลจะได้จัดงานสโมสรสันนิบาตเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายชัยมงคลในศุภวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษา เช่นเดียวกันกับทุกปีที่ผ่านมา