ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ได้สั่งการกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ให้เร่งสำรวจและประเมินความเสียหาย ช่วยเหลือสงเคราะห์เยียวยาประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย พร้อมซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว
จากการติดตามสภาพอากาศ พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับช่วงวันที่ 2 - 3 ธันวาคม 2556 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอกำชับให้ ปภ. ประสาน 7 จังหวัดภาคใต้ เตรียมการป้องกันภัยไว้ล่วงหน้า กำหนดมาตรการเชิงรุกช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประสานการดำเนินงานกับกำลังพลของหน่วยทหารและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำวัสดุอุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมเผชิญเหตุ ให้การช่วยเหลือ อพยพประชาชนและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที ที่สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และวัสดุอุปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์บัญชาการส่วนหน้าระดับภาค ณ จังหวัดสงขลา เพื่อบูรณาการแนวทางและขั้นตอนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้คล่องตัวมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงพื้นที่ อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป