นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งและการชุมนุมทางการเมืองต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง เป็นเหตุให้ทุกฝ่ายมีความกังวลใจและห่วงใยในอนาคตของบ้านเมืองร่วมกัน หรือการหาทางออกในอนาคต รัฐบาลในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดิน ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยให้เป็นไปอย่างสันติ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รัฐบาลพร้อมที่จะเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็น หรือร่วมเวทีหารือเพื่อแสวงหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย จากการติดตามข่าวสารที่ปรากฏต่อสาธารณชน เป็นที่เห็นได้ชัดว่ามีความพยายามขององค์กรต่างๆที่จะเปิดพื้นที่หรือเวทีสำหรับการพูดคุยตามแนวทางสันติวิธี เพื่อให้ได้แนวทางการปฏิรูปประเทศไทยในวันข้างหน้า ซึ่งเมื่อได้มีการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แล้วควรจะได้มีการหารือร่วมกันระหว่างทุกฝ่ายบนพื้นฐานของสันติวิธีที่จะดำเนินการคู่ขนานกันไปในระหว่างรอการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์และเห็นว่าควรมีการแสวงหาข้อตกลงร่วมกันว่าในอนาคตหลังจากการเลือกตั้งแล้วจะมีแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยที่เป็นรูปธรรมอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาให้เกิดความสบายใจของทุกภาคส่วน
รัฐบาลได้พิจารณาความเห็นดังกล่าว ประกอบกับข้อมูลข่าวสารและข้อเสนอที่หลายฝ่ายในสังคมไทยกำลังช่วยกันระดมความคิดเพื่อให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปได้ ขอเรียนว่ารัฐบาลยินดีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้เกิดเวทีดังกล่าว ทั้งนี้ได้ขอให้นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับไปดำเนินการเบื้องต้นเพื่อเชิญชวนภาคส่วนต่างๆที่เป็นตัวแทนของพรรคการเมือง ภาคเอกชนและภาคธุรกิจ ภาคราชการ สถาบันการศึกษา ภาคสังคม ภาคประชาชน ทุกกลุ่มการเมือง องค์กรต่างๆ และนักกฎหมาย นักวิชาการที่มีความหลากหลายรวมถึงสื่อมวลชน เข้ามาร่วมหารือทางออกตามแนวทางที่เป็นไปได้
ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกในการเปิดเวทีนี้ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า โดยขอเชิญประชุมหารือร่วมกันในวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2556 เวลา 9.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการหารือ รัฐบาลหวังว่าหลังจากการประชุมร่วมหารือกันในลักษณะที่เปิดใจกว้างเช่นนี้ เชื่อว่าจะมีข้อเสนอที่ชัดเจนเพื่อให้ทุกฝ่ายในสังคมไทยได้มองเห็นแนวทางในการแก้ปัญหาประเทศและเห็นชอบร่วมกันต่อไป