สถานีโทรทัศน์ สัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.สังเกตเห็นผู้ต้องสงสัยสองคนขับขี่รถจักรยานมาที่ฝั่งตรงข้ามสโมสรทหารบก ต่อมาหนึ่งในคนร้ายได้เดินข้ามสะพานลอยมุ่งหน้ามายังอีกฝั่ง จึงตะโกนให้ผู้ชุมนุมจับตัวไว้คนร้ายจึงควักอาวุธปืนขึ้นมายิงเข้าใส่ที่ขาของคนที่กรูเข้าไปจับกุมจนได้รับบาดเจ็บไป 1 ราย จากนั้นผู้ชุมนุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้และรุมประชาทัณฑ์และนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมกับผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่งได้วิ่งหลบหนีไปได้
ทั้งนี้ การ์ด กปปส.สามารถยึดอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.ของคนร้ายไว้ได้ 1 กระบอก และพบรถจักรยานยนต์ 1 คัน, วิทยุสื่อสาร 2 ตัว, เสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง 1 ตัว และกล้องวงจรปิดขนาดเล็ก 1 ตัวที่ติดไว้บริเวณด้านหน้าของรถจักรยานยนต์ โดยทางผู้ชุมนุมระบุว่าได้ส่งมอบอาวุธปืนให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว
ศูนย์เอราวัณ รายงานว่า จากเหตุปะทะบริเวณตรงข้ามสโมสรกองทัพบก มีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย นำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย เป็นชายอายุ 32 ปี มีบาดแผลบริเวณหน้าท้องด้านซ้ายทะลุหลัง และโรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย เป็นชายอายุ 45 ปี มีบาดแผลแตกที่ศรีษะด้านขวา เจ็บบริเวณหน้าอกซ้าย เตรียมย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้กำกับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 กล่าวยอมรับว่า บุคคลที่ถูกผู้ชุมนุมกปปส. จับเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา โดยในช่วงเช้าได้สั่งการให้แต่งกายนอกเครื่องแบบเพื่อลงพื้นที่หาข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเคลื่อนพลมาที่หน้าสโมสรทหารบก พร้อมยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้พกอาวุธปืนเข้าในพื้นที่
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ด.ต.คงเพรช เพชรกันหา ตำแหน่งผบ.หมู่สืบสวน บก.น.2. ถูกผู้ชุมนุม ค้นตัว และมีการตะโกนว่าเป็นตำรวจ ทำให้ ด.ต.คงเพชร เห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงวิ่งหนี แต่ถูกผู้ชุมนุมฯ ไล่ติดตามและจับกุมตัวได้ และรุมทำร้าย