นายพงษ์เทพ กล่าวว่า เนื่องจาก กกต.เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง ดังนั้นหากมีปัญหาเกิดขึ้นในหน่วยเลือกตั้งทาง กกต.ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบดูแล หากมีความกังวลเรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อยก็สามารถที่จะประสานขอความช่วยเหลือมาทางรัฐบาลได้ ซึ่งในวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.หากเกิดเหตุวุ่นวายในหน่วยเลือกตั้งขึ้นอีกเหมือนเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา กกต.ก็สามารถสั่งยุติการลงคะแนน แล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นได้เรื่อยๆ จนกว่าจะได้ ส.ส.อย่างน้อย 95% ซึ่งสามารถเปิดการประชุมรัฐสภาได้ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
"รัฐบาลเข้าใจปัญหาที่ กกต.เสนอมา ซึ่งเชื่อว่า กกต.และรัฐบาลจะร่วมมือกันจนสามารถจัดการเลือกตั้งให้ผ่านพ้นไปด้วยดีได้ ดีกว่าปล่อยให้เลื่อนเวลาออกไป ซึ่งไม่แน่นอนว่าปัญหาจะไม่เกิดขึ้นอีกหรือไม่รุนแรงไปกว่าเดิม" นายพงศ์เทพ กล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลยังห่วงเรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ที่อาจล่าช้าเกินกำหนด ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ระบุว่า รัฐบาลมีความเห็นต่างจาก กกต.ที่ประเมินสถานการณ์แล้วว่าการเลือกตั้งจะเกิดความวุ่นวาย และอาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4-6 เดือนเพื่อที่จะได้จำนวน ส.ส.เพียงพอที่จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ เมื่อหาข้อสรุปไม่ได้จึงได้ยึดแนวทางตามข้อกฎหมายเป็นหลัก แต่จะพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยกกต.จะอำนวยการจัดการเลือกตั้งตามที่มีการตรา พ.ร.ฎ.ไว้ หากหน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้งสามารถปิดการลงคะแนนและสั่งจัดการเลือกตั้งใหม่ในภายหลังได้
ในวันพรุ่งนี้จะประสานของความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจัดส่งบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ยังค้างอยู่ที่ทำการไปรษณีย์ 3 แห่งใน 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อจัดส่งให้ครบทุกหน่วยเลือกตั้ง