"นับตั้งแต่วันนี้ผมจะใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ใครไปปิดสถานที่ราชการผมจะใช้กำลังจับกุมตามอำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กปปส.ไปบุกบ้านใคร ตำรวจอยู่ ตำรวจสามารถจับตามความผิดซึ่งซึ่งหน้า" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
พร้อมระบุว่า การสั่งการในลักษณะเช่นนี้จะดำเนินการเฉพาะกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมไปบุกรุกสถานที่ราชการ ปิดล้อมบ้านบุคคลสำคัญก็จะใช้มาตรการดังกล่าว แต่ในส่วนของพื้นที่การชุมนุมจะไม่เข้าไปดำเนินการใดๆ เพราะเชื่อว่าสุดท้ายกลุ่มผู้ชุมนุมจะอ่อนล้าและหมดเงินทุนในการร่วมชุมนุมไปเอง
อย่างไรก็ตาม จะเน้นการจับกุมเฉพาะผู้ชุมนุมเป็นหลัก แต่จะยังไม่เข้าจับกุมแกนนำ เพราะเกรงว่าหากเข้าจับกุมแกนนำทันทีอาจเกิดการต่อสู้จนเกิดการสูญเสียได้
"จะไม่มีการเตือนอีกต่อไป ไม่มีการใช้แก็สน้ำตา แต่จะใช้โล่และกระบอง หากพื้นที่ใดมีการปิดล้อมและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอ จะสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมอีก"ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าการสั่งการในครั้งนี้ไม่ได้เป็นผลจากการที่ผู้ชุมนุมไปปิดล้อมสำนักงานปลัดกลาโหมเมื่อวานนี้ แต่เป็นเพราะเห็นว่าประชาชนทนไม่ไหวกับการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.แล้ว ส่วนการที่กลุ่ม กปปส.ไปปิดล้อมที่สำนักงานปลัดกลาโหมวานนี้ พบว่ามีรถที่ขนอาวุธซึ่งเป็นรถคันเดียวกับที่ปรากฎในคลิปเหตุการณ์ยิงปะทะกันที่หลักสี่เมื่อหลายวันก่อน
สุดท้าย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปนายทหารที่เกษียณอายุราชการไปแล้วพูดคุยเรื่องจะมีการปฏิวัติ โดยฝากเตือนว่า อย่าคิดว่าจะมาทำปฏิวัติ แต่ไม่ขอระบุว่ามีนายทหารในปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่