ศรส.ขอสนับสนุนและเห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้แสดงการสนับสนุนให้มีการเจรจากัน และให้การแก้ไขปัญหาดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่ ศรส. ปฏิบัติอยู่ โดยคณะกรรมการ ศรส. ก็มีผู้แทนของผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดร่วมเป็นคณะกรรมการอยู่ด้วยแล้ว อีกทั้งการปฏิบัติการต่าง ๆ ก็กระทำร่วมกันทั้งตำรวจ ทหารและพลเรือน ซึ่ง ศรส.ขอย้ำว่า ศรส.ไม่ใช่คู่กรณีหรือคู่ขัดแย้งกับกลุ่มใด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสนับสนุน กปปส. กลุ่มคัดค้าน กปปส. กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มอื่นใด แต่ ศรส. เป็นองค์กรพิเศษที่มีภารกิจเพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาและนำความสงบสุขกลับคืนสู่สังคมและบ้านเมืองดังเดิม
ทั้งนี้ ศรส.ขอขอบคุณแกนนำ กปปส.ที่จะได้ยุบเวทีการชุมนุมต่าง ๆ ไปรวมกันที่เวทีสวนลุมพินี อันเป็นสัญญาณที่ดีว่า กปปส.ได้ลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานครมาเป็นเวลานาน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แต่ ศรส.ก็ยังห่วงใยการคงไว้ซึ่งเวทีชุมนุมถนนแจ้งวัฒนะ และบริเวณถนนรอบทำเนียบรัฐบาล รวมถึงการประกาศของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่จะยังคงส่งมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมถึงบริษัท ห้างร้านภาคเอกชนด้วย ซึ่งล้วนเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั้งสิ้น
สำหรับกลุ่ม กวป. ที่ชุมนุมบริเวณด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น ศรส.ขอเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมโดยเร็ว เพราะได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทางถนนนนทบุรี1 และทำให้กรรมการ ป.ป.ช. และข้าราชการ ป.ป.ช. ไม่สามารถเข้าทำงานได้ตามปกติ การกระทำของแกนนำ กวป. เช่นนี้ เป็นการสร้างเงื่อนไขและความวุ่นวายในบ้านเมืองมากขึ้นไปอีก ศรส.จึงได้มีหนังสือแจ้งพนักอัยการให้มีหนังสือสอบถามขอคำแนะนำไปยังศาลแพ่งว่า กรณีการชุมนุมของกลุ่ม กวป. ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น ศูนย์รักษาความสงบและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการเช่นใดจึงจะไม่เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามทั้ง 9 ข้อของศาลแพ่งดังเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์รักษาความสงบและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามกรอบของกฎหมายโดยไม่ฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลแพ่ง