จากสถานการณ์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งสองแห่ง ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือ คงเหลือปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้เพียงร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯรวมกัน ในขณะที่ยังต้องส่งน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค และการรักษาระบบนิเวศน์ อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะสิ้นสุดฤดูแล้งในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งยังต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้า ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง พบว่ายังคงมีเกษตรกรบางส่วน ได้ทำนาปรังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทางกรมชลประทาน ได้ประกาศงดส่งน้ำสำหรับทำนาปรังไปแล้ว ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อผลผลิตที่อาจจะเกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือให้งดทำนาปรังต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่าฤดูฝนปีนี้มีแนวโน้มจะมาล่าช้ากว่าปกติ จึงต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝน และในช่วงที่เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมของทุกปีด้วย