วันนี้ถึงแม้ว่าผมจะมอบหมายงานต่าง ๆ กระจายอำนาจไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ผมไม่สามารถจะปัดความรับผิดชอบอะไรได้ ก็ต้องทำงาน กำกับดูแล ให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ถ้าเราปฏิบัติงานตามระเบียบปฏิบัติประจำ (รปจ.) อย่างเดียว ก็ไม่ก้าวหน้า งานก็ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด รวมความถึงในเรื่องของการให้รางวัลคนดี ทำโทษคนไม่ดี ใช้พระเดช พระคุณ ควบคู่กันไป หลักการของผมคือนายต้องดูแลลูกน้อง ลูกน้องไม่จำเป็นต้องมาดูแลนาย
ระบบการบริหารราชการ ระหว่าง ฝ่ายการเมือง กับ ข้าราชการ จำเป็นต้องมีการปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง บุคลากร คุณภาพ ความซื่อสัตย์ รวมไปถึงรูปแบบการปฏิบัติงาน หน้าที่ พันธกิจ ความริเริ่ม การมุ่งไปสู่ผลสัมฤทธิ์ การประเมินคุณภาพ ฯลฯ ต้องยอมรับกันว่า คนดีนั้น ย่อมมีมากกว่าคนที่ไม่ดี เราต้องใช้คนดีในการทำงาน หากทำไม่ได้ ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไป จนกว่าจะได้คนดี ซื่อสัตย์ สุจริต จริง ๆ
การปรับย้ายข้าราชการในปัจจุบัน ระดับ 10–11 จำเป็นต้องใช้อำนาจ คสช. เนื่องจากปัจจุบันไม่มี ครม. ทั้งนี้เป็นการปรับย้ายเพื่อความเหมาะสม ฉะนั้นเรื่องการปรับย้ายในระดับที่ต่ำกว่า จะเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวง และหัวหน้าหน่วยงานเป็นการภายในที่ต้องรับผิดชอบ
"คสช.ไม่ได้มุ่งหวังจะสืบทอดอำนาจ หรือเปลี่ยนกลุ่มผลประโยชน์แต่ประการใด คสช. พยายามแก้ไขเรื่อง ผลประโยชน์ทับซ้อน การทุจริต คอร์รัปชั่น ซึ่งก็เป็นการยากที่จะคัดสรรคนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับสมัยใด/ยุคใด เข้ามาบริหารราชการได้เลย เพราะเป็นการปฏิบัติงานตามระเบียบปฏิบัติประจำ (รปจ.) ตามข้อบังคับของทุกหน่วยงาน ถ้าเราต้องใหม่ไป แล้วทำงานไม่ดีก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาในปัจจุบัน การปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานจะต้องมีความสัมพันธ์ทางการบังคับบัญชา ซึ่งการปกครองหรือบังคับบัญชาคนนั้นจะเกี่ยวข้องกัน 3 ส่วนคือ ผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา และผลสัมฤทธิ์จะไปตกอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ได้รับประโยชน์ ดังนั้นถ้าระบบดีแล้ว อะไรก็จะดี องค์กรที่ดีจะต้องมี “ความริเริ่ม รวดเร็ว รอบคอบ มีคุณธรรม และจริยธรรม ทั้งบุคลากร และองค์กรทุกองค์กร"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ขอยืนยันว่า คสช. จะพยายามสร้างระบบ สร้างข้าราชการ สร้างคนให้แข็งแรง เป็นข้าราชการที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ได้ หรือเป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดิน