"ตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.มีสัญญาว่าจ้าง โดยมีคณะกรรมการ(บอร์ด) ร.ฟ.ท.เป็นผู้บริหารจัดการ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.หากจะต้องตรวจสอบคงต้องรอให้ตั้งประธานบอร์ดก่อน"นางสร้อยทิพย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมจะเร่งเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ เพื่อให้บังคับใช้เป็นกฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ก่อนหน้านี้ได้บังคับในส่วนของสถานีรถไฟทั่วประเทศ สถานีขนส่ง และบนรถโดยสารไปแล้ว
ด้านนายประภัสร์ กล่าวว่า หากลาออกจากตำแหน่งผู้ว่า ร.ฟ.ท.ในตอนนี้ก็จะถูกคนอีกกลุ่มบอกว่าหนีปัญหา ขณะที่ตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ต้องใช้เวลาในการสรรหาค่อนข้างนาน ดังนั้น จึงตัดสินใจที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่อเร่งแก้ปัญหา โดยจะเพิ่มและเข้มงวดมาตรการด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารรถไฟในทุกเรื่อง รวมทั้งจะมีการประกาศใช้ระเบียบห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สถานีรถไฟและบนรถไฟโดยเด็ดขาด
นอกจากนั้น จะนำมาตรการรถไฟตู้โดยสารเฉพาะผู้หญิงและเด็กกลับมาใช้ใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสาร ซึ่งสามารถทำได้ทันที แค่ติดป้ายที่ตู้โดยสารให้ชัดเจน ไม่ต้องปรับปรุงตัวรถ โดยจะจัดให้มีอย่างน้อยขบวนละ 1 ตู้ แต่ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยจัดแยกตู้โดยสารเฉพาะแล้ว แต่ผู้โดยสารไม่สนใจเพราะส่วนใหญ่เดินทางเป็นกลุ่มหรือครอบครัว แต่ตอนนี้กระแสต้องการความปลอดภัยจึงจะนำมาใช้อีก
พร้อมกันนี้จะมีการติดตั้งกล้อง CCTV ภายในตู้โดยสารซึ่งได้กำหนดไว้ในการจัดซื้อรถโดยสาร 115 คันแล้ว โดยจะติดไว้บริเวณทางเดิน เพื่อให้รบกวนหรือละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสารน้อยที่สุด ส่วนรถเก่าที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่อายุกว่า 40 ปี ไม่มีระบบไฟฟ้า การติดตั้ง CCTV จะยุ่งยากมาก และเมื่อปี 2556 เคยทดลองติดตั้งแล้ว พบว่าทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย
นายประภัสร์ ยังกล่าวถึงคดีข่มขืนหญิงสาวปริญญาโทบนตู้นอนขบวนรถไฟสายใต้เมื่อปี 2544 ซึ่งเจ้าทุกข์ยังไม่ได้รับการชดเชยสินไหมจาก ร.ฟ.ท.ตามคำตัดสินของศาลว่า เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งแต่ปีกว่าจึงไม่ทราบเรื่องนี้เพราะเกิดขึ้นมา 13 ปีแล้ว และเมื่อตอนเกิดเหตุน้องแก้มเจ้าหน้าที่รถไฟบอกว่าไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน เพราะไม่ได้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ได้สั่งให้รวบรวมข้อมูลกรณีดังกล่าวมาตรวจสอบอีกครั้งแล้ว