สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ขอคัดค้านมติดังกล่าว ว่าเป็นการพิจารณาที่ไม่รอบคอบมุ่งประโยชน์แต่ทางเศรษฐกิจ เอื้อประโยชน์แต่กลุ่มทุน จนละเลยประเด็นสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์
"ผู้คนทั่วโลกเขาต่างถวิลหาและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ จนยกย่องให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ" ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ควรทำหน้าที่ในการปกป้องและรักษาทรัพยากรเหล่านี้แทนคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่เข้ามาทำหน้าที่ส่งเสริมการลงทุน หรือเป็นตัวแทนกลุ่มทุน...ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มีการตัดถนนสาย 304 ขนาดช่องการจราจรเดิมก็ได้ทำลายชีวิตสัตว์ป่าไปแล้วมากมายมหาศาลในแต่ละปี ซึ่งทางที่เหมาะสมควรที่จะต้องปิดหรือยกเลิกเพิกถอนเส้นทางดังกล่าวเสียด้วยซ้ำไป" แถลงการณ์ ระบุ
เป็นที่น่าสังเกตว่าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเพียงไม่กี่วัน จะสามารถอ่านและทำความเข้าใจรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่มีเนื้อหาแต่ละโครงการนับ 1,000 หน้าได้อย่างไร และที่สำคัญไม่มีตัวแทนของภาคประชาชน ผู้มีส่วนได้เสีย หรือนักอนุรักษ์เข้าไปนั่งเป็นกรรมการหรือร่วมพิจารณาด้วยเลย มีแต่นักอนุรักษ์จอมปลอมเท่านั้น"
ดังนั้น สมาคมฯ จึงขอเรียกร้องมายังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และ คสช. ได้โปรดรักษาทรัพย์สมบัติทางธรรมชาติไว้ให้ลูกหลายไทยในอนาคตเพื่อคืนความสุขให้กับคนไทยได้อย่างแท้จริง โดยการทบทวน หรือเพิกถอนโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าวเสีย และหากข้อเรียกร้องนี้ไม่บังเกิดผล สมาคมฯจะร่วมมือกับภาคประชาชนทั่วประเทศที่มีใจอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรเหล่านี้ โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญในการฟ้องร้องหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อศาลปกครองแน่นอน