เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่าจะสามารถปฏิรูปประเทศไทยให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ชัดเจนมากน้อยเพียงใดพบว่า ในภาพรวมประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 62.6 เชื่อว่าหลังการปฏิรูป ปัญหาต่างๆ จะยังคงมีเหมือนเดิมหรือดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ร้อยละ 37.4 เชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงด้านที่ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนมากที่สุดพบว่าเป็นด้านการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง (ร้อยละ 45.9) รองลงมาเป็นด้านการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น(ร้อยละ 44.3) และด้านการศึกษา การเรียนรู้ และภูมิปัญญา (ร้อยละ 35.5) ส่วนด้านที่ประชาชนเห็นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างชัดเจนน้อยที่สุดคือ ด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม (ร้อยละ 29.7 ) และด้านการสร้างระบบการเลือกตั้งที่ดี/ไม่มีนโยบายประชานิยมแบบสุดโต่ง/ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง(ร้อยละ 31.6)
ต่อข้อถามว่า “เห็นด้วยหรือไม่ที่พรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)" ร้อยละ 45.2 บอกว่า “เห็นด้วย" ขณะที่ร้อยละ 39.4 “ไม่เห็นด้วย" และร้อยละ 15.4 “ไม่แน่ใจ"
นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 90.4 ยังเห็นว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ควรยื่นและเปิดเผยทรัพย์สินต่อสาธารณชน มีเพียงร้อยละ 4.1 ที่เห็นว่าไม่ควร และร้อยละ 5.5 ไม่แน่ใจ
สุดท้ายเมื่อถามว่า เชื่อมั่นมากน้อยเพียงใดว่าคณะกรรมการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ จะสามารถคัดเลือกผู้สมัครสมาชิก สปช. อย่างยุติธรรมและโปร่งใส ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.6 บอกว่าเชื่อมั่นมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 36.4 เชื่อมั่นน้อยถึงน้อยที่สุด