โดยเมื่อวันที่ 23 - 24 ก.ค. 2557 ในช่วงเวลากลางวัน ศาลทหารกรุงเทพได้พิจารณาคดีพยายามฆ่า และคดีฆ่าผู้อื่นตามลำดับ และในวันพิจารณานั้นได้มีการเบิกอาวุธของกลางที่เก็บไว้ในแผนเก็บรักษา เพื่อมาให้โจทย์ยืนยันของกลางในคดี แต่ไม่พบ ซึ่งในวันที่ 23ก.ค. เป็นอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9มม. ยี่ห้อ ซีแซด หมายเลขทะเบียน กท. 4916390และ วันที่ 24ก.ค. เป็นอาวุธปืนสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด.38ยี่ห้อ ซีเทารัส หมายเลขทะเบียน กท. 4015146และ อีกจำนวน 52กระบอก รวมเป็น 54กระบอก หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัว ร.อ.ชินพล มาพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม และได้ขออนุมัติหมายศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับที่ 42/2557ลงวันที่ 5ส.ค.2557และจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของจ.ส.อ.สมเกียรติ อยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับ เพราะได้หลบหนีไป
สำหรับอาวุธกลางที่หายไปนั้น เป็นอาวุธสงครามที่ได้ยึดมาจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงอาวุธของกลางบางส่วนที่ได้นำมาแถลงให้สื่อมวลชนได้รับทราบถึงการจับกุมอาวุธสงคราม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้กวาดล้างอาวุธสงครามในช่วงที่ผ่านมา สำหรับอาวุธสงครามที่หายไปจำนวน 54 กระบอกนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามอาวุธสงคราม และจ.ส.อ.สมเกียรติ เพราะเกรงว่าจะนำอาวุธไปขายให้กับกลุ่มที่ไม่หวังดีเพื่อนำมาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย