"เขามาเปลี่ยนเครื่อง ไม่ได้ผ่านเข้าประเทศไทย จึงไม่ได้ผ่านเครื่องสแกนที่ทางสนามบินมีไว้ และเขาไม่ได้เข้ามานอนในไทย และเชื้ออีโบล่าไม่ได้ติดกันง่าย " นางระวิวรรณกล่าว
นางระวีวรรณ กล่าวว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางมาจากสนามบินในกรุงโดฮา ประเทศการ์ต้า ด้วยสายการบินการ์ต้าแอร์เวย์ และมาต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิช่วงประมาณ 20.00 น.ของวานนี้ เพื่อเดินทางต่อไปเมืองย่างกุ้งด้วยเครื่องบินสายการบินเมียนมาร์แอร์ไลน์ โดยด่านตรวจของสนามบินพม่าตรวจพบว่าชายคนดังกล่าวมีไข้สูง 38.5 องศา และมีประวัติเคยไปทำงานในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบล่า จึงได้กักตัวชายคนดังกล่าวให้อยู่พื้นที่ควบคุมของโรงพยาบาลในเมืองย่างกุ้ง เพื่อรอตรวจสอบและเพาะเชื้อว่ามีเชื้อไวรัสอีโบลาหรือไม่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการยืนยันว่าพบเชื้ออีโบลา
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ไทยมีมาตรการเฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างใกล้ชิด หลังพบชายวัย 22 ปีที่เดินทางจากประเทศกินีที่ผ่านเข้ามาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางต่อไปยังพม่าเมื่อคืนนี้ โดยได้ประสานไปยังทางการพม่า และตรวจสอบว่าในช่วงที่เดินทางเข้ามาผู้ต้องสงสัยได้สัมผัสกับใครหรือไม่ เพราะโรคนี้ติดต่อทางสารคัดหลั่ง ไม่ใช่ระบบทางเดินหายใจ
"จากการประเมินเบื้องต้นและดูอาการผู้ป่วยถือว่ายังไม่เข้าข่ายที่น่ากลัว เราดูผลแล็ปเบื้องต้นแล้ว แต่ต้องรอประมวลผลก่อน" นพ.รุ่งเรือง ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ประสานข้อมูลกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.แล้วไม่พบว่ามีผู้ที่ไปสัมผัสกับผู้ต้องสงสัย โดยได้แยกตัวผู้ต้องสงสัยไว้ในพื้นที่ควบคุม หลังตรวจพบว่ามีอาการป่วยเป็นไข้ ขณะเดินทางผ่านช่องทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ