นายวีระยัง ฝากไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่าถ้าจะแก้ปัญหาทุจริตต้องใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนอย่างนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน ที่จัดการทุจริตแบบไม่เห็นแก่หน้าใครและเอาตัวเองเป็นต้นแบบ แม้ประเทศจีนจะเป็นประเทศปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ แต่สิ่งที่เขาใช้อำนาจเผด็จการมาจัดการปัญหาทุจริตได้นั้น เรื่องนี้ทำให้จีนก้าวหน้ากว่าประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ที่ไม่มีความจริงใจและจริงจังแก้ปัญหา ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องเอาตัวเองเป็นต้นแบบ หากไม่ทำ ต่อให้สถาบันพระปกเกล้าทำวิจัยเรื่องนี้ไปอีก 10 ปีประเทศไทยก็ไม่พ้นจากการทุจริตคอรัปชั่นได้
นอกจากนั้น คนที่ทำทุจริตมีความเสี่ยงที่จะถูกจับได้น้อย และแม้ถูกจับ ยังมีกระบวนการทางกฎหมาย พรรคพวกที่วิ่งเต้นขอความช่วยเหลือกันได้ ถ้าคดีถึงที่สุดเขาก็สามารถพ้นผิดได้ ทำให้ส่วนใหญ่หลุดจากคดี ดังนั้นประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นความยากต่อการรณรงค์และปราบปรามการทุจริตให้สำเร็จ หากสังคมปล่อยให้คนที่ทุจริตคอรัปชั่นมีโอกาสเข้ามามีอำนาจ มาเป็นนักการเมือง