ด้านนายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า โรคตาแดงจากไวรัสที่ระบาดอยู่ในขณะนี้มี 2 ลักษณะ คือ1.โรคตาแดงที่เกิดพร้อมกับไข้หวัด โดยจะมีอาการตัวร้อน คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูปวดบวม นำมาก่อน จากนั้นภายใน 2 วันจะมีอาการตาแดงตามมา บางรายอาจมีจุดเลือดออกที่ตาขาวด้วย และ2.โรคตาแดงที่เกิดรุนแรงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอาการอื่นๆ มาก่อน มักมีประวัติพบคนที่เป็นตาแดงหรือคนใกล้ชิดเป็นตาแดงมาก่อน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ ทำให้มีขี้ตามาก และเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว มักเริ่มเป็นที่ข้างใดข้างหนึ่งก่อน และลามไปเป็น 2 ข้างอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วัน บางรายอาจมีตาดำอักเสบ ทำให้เคืองตามาก และมีแผลที่ตาดำชั่วคราวได้
โรคนี้ติดต่อกันง่าย เนื่องจากเชื้อไวรัสจะอยู่ในสิ่งสกปรก น้ำตา ขี้ตาของผู้ที่เป็นตาแดง เชื้อไวรัสจะตายเมื่ออยู่ในที่แห้งภายใน 30 นาที การติดต่อมี 3 ลักษณะ คือ 1.จากมือที่ไปสัมผัสน้ำตา ขี้ตาผู้ป่วยตาแดงที่ติดอยู่ตามสิ่งของ พื้นผิวต่างๆ ขณะที่ยังไม่แห้ง เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะทำงาน แป้นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ราวรถเมล์ เป็นต้น แล้วมาสัมผัสที่ตา หรือใช้ของส่วนตัวร่วมกันกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น 2.จากแมลงหวี่แมลงวัน ที่ตอมสิ่งสกปรกหรือตอมตาของผู้เป็นตาแดงแล้วไปตอมตาคนอื่นต่อ และ3.เด็กที่ลงเล่นในน้ำท่วมขังซึ่งน้ำจะมีความสกปรกสูง ทั้งนี้ในการป้องกันโรคตาแดง ขอให้ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หลีกเลี่ยงการใช้มือแคะ แกะ เกาหน้า ขยี้ตา ไม่ลงเล่นน้ำท่วม หากจำเป็นขอให้รีบอาบน้ำให้สะอาดทันทีหลังขึ้นจากน้ำ ส่วนผู้เป็นโรคตาแดง ขอให้งดลงสระว่ายน้ำจนกว่าจะหาย เพื่อป้องกันเชื้อแพร่กระจายในน้ำ
นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าวต่อว่า โรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัส จะไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ใช้การรักษาตามอาการ คือใช้ยาหยอดตาเพื่อลดอาการระคายเคือง ถ้ามีขี้ตามากสีเหลืองหรือเขียวแสดงว่าติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย จะต้องใช้ยาหยอดตาปฏิชีวนะ ซึ่งหากใช้ยา 2 อย่างร่วมกันจะต้องเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 5 นาทีเพื่อไม่ให้ยาล้างกัน แต่หากหยอดยาปฏิชีวนะแล้วมีตาแดงมากขึ้นหรือหนังตาบวมแดงให้หยุดยา และนำยามาปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่าแพ้ยาหรือไม่ ที่สำคัญคือต้องหยุดเรียน หรือหยุดงานอย่างน้อย 3 วัน พักผ่อนให้มากๆ และพักการใช้สายตา ส่วนใหญ่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากยังมีอาการระคายเคืองเหมือนมีทรายเข้าตา ตามัว แสดงว่าอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่สำคัญคือกระจกตาอักเสบ ตาดำอักเสบ หรือม่านตาอักเสบ ขอให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจอย่างละเอียดและให้การรักษาอย่างเหมาะสม