ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำเหนือ ที่กำลังจะไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง กรมชลประทาน จึงได้วางมาตรการในการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำสูงสุด ที่ไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จะอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 1,200 – 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 8 ก.ย. 57 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ในเกณฑ์ประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทาน จะทยอยเพิ่มการพร่องน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้มากขึ้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลักษณะดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่า 1 เมตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผง เป็นต้น จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมา ขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูงหรือที่ปลอดภัยจากระดับน้ำ พร้อมทั้งขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย