เนื่องจากคาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปีนี้ ในกรณีที่เกิดฝนตกในเกณฑ์ปกติ จะมีน้ำต้นทุนรวมกันประมาณ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ แต่หากมีฝนตกน้อยกว่าเกณฑ์เฉลี่ยปกติตลอดฤดูฝน อาจจะเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำได้ในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง
"แม้ขณะนี้จะเป็นช่วงฤดูฝน แต่กลับพบว่าปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูมาจนถึงเดือนกันยายน มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยประมาณร้อยละ 30 ซึ่งส่งผลให้มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีน้อยลงตามไปด้วย และมีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งได้ หากไม่มีมาตรการในการแก้ไข"
จังหวัดชลบุรี มีแหล่งน้ำต้นทุนประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำบางพระ อ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน อ่างเก็บน้ำซากนอก อ่างเก็บน้ำหนองกลางดง อ่างเก็บน้ำห้วยสะพาน และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนจิต ปัจจุบัน(19 ก.ย. 57) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้ประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับแผนระยะยาว ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของจังหวัดชลบุรี กรมชลประทาน ได้วางมาตรการไว้ ดังนี้ โครงการก่อสร้างระบบท่อผันน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต - อ่างเก็บน้ำบางพระ คาดว่าจะเริ่มสูบน้ำได้ประมาณเดือนธันวาคม 2557, โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองชลประทานพานทองเชื่อมต่อระหว่างระบบท่อผันน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระ เพิ่มปริมาณน้ำได้ 70 ล้าน ลบ.ม. อยู่ในระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากโครงการต่างๆที่กล่าวมา ดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับการใช้น้ำที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จากการขยายตัวทั้งภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม ในเขตจังหวัดชลบุรี ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี