เนื่องจากศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด(23 ก.ย. 57) ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 5,223 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 39 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,423 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,312 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,462 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 620 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 577 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 613 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 64 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 610 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ จากข้อมูลปริมาณน้ำต้นทุนดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า ณ ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันเพียง 5,072 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในปีปกติปริมาณน้ำใช้การได้จะอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ถึงจะเพียงพอใช้ในทุกกิจกรรม ในขณะที่ฤดูฝนปีนี้ ยังเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนเศษเท่านั้น