ด้านนพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ได้เก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการครั้งแรกที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลการตรวจไม่พบการติดเชื้อไวรัสอีโบลา รวมทั้งได้ตรวจหาการติดเชื้อมาลาเรีย และไข้เลือดออก ผลไม่พบเชื้อเช่นกัน
โดยในเช้าวันนี้ ผู้ป่วยอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ถ่ายอุจจาระน้อยลง ช่วยเหลือตัวเองได้ดี ทีมแพทย์วางแผนเจาะเลือดตรวจหาเชื้อไวรัสอีโบลาอีกครั้งหนึ่งในวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2557 เพื่อความมั่นใจ ส่วนผู้สัมผัสทั้งหมดทุกคนสบายดีผู้เดินทางรายนี้แม้มาจากประเทศดีอาร์คองโก แต่มาจากจังหวัดที่อยู่ห่างไกลจากจังหวัดอีเควเตอร์ ซึ่งเป็นเขตติดโรคถึง 400 กิโลเมตร
ส่วนนพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มาตรการการเฝ้าระวังที่ไทยดำเนินการอยู่นี้ เป็นระบบการตรวจจับอีโบลาที่มีประสิทธิภาพ และสามารถติดตามผู้ที่เดินทางจากทุกพื้นที่ที่เป็นเขตติดโรคมีระบบการประสานงานดูแลติดตามระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กทม.และจังหวัดต่างๆ ในภูมิภาค ผลการตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศวานนี้ (28 ตุลาคม 2557) มีจำนวน 22 คน ไม่มีรายใดมีไข้ ยอดการตรวจสะสมตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมา รวมทั้งหมด 2,545 คน ส่วนใหญ่มาจากไนจีเรีย 1,285 คน รองลงมาคือกินี 789 คน คองโก 163 คน โดยร้อยละ 97 เดินทางมาโดยเครื่องบิน ที่เหลือมาโดยเรือและรถยนต์
สำหรับที่ด่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับการท่าอากาศยานติดตั้งเครื่องตรวจวัดไข้ 6 เครื่อง จัดจุดจอดเครื่องบินที่มาจากพื้นที่ระบาดเป็นการเฉพาะ เพื่อให้สะดวกต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจคัดกรองผู้โดยสารโดยจะตรวจผู้ที่มีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดตามประกาศเขตติดโรคของกระทรวงสาธารณสุขในทุกเที่ยวบินและจะคงมาตรการต่อไป หากผลการตรวจคัดกรองพบว่าผู้เดินทางคนใดมีไข้ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะรับตัวเข้าดูแลในโรงพยาบาลที่จัดเตรียมไว้ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด เพื่อป้องกันเชื้อแพร่เชื้อ และจะติดตามอาการผู้สัมผัสทุกคนจนครบ 21 วันตามเกณฑ์ ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก โดยระยะที่ผ่านมายังไม่พบผู้เดินทางรายใดติดเชื้ออีโบลา