ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีแหล่งน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง คือ อ่างฯบางพระ อ่างฯหนองค้อ อ่างฯมาบประชัน อ่างฯซากนอก อ่างฯหนองกลางดง อ่างฯห้วยสะพาน และอ่างฯห้วยขุนจิต ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 110 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 62 ของปริมาณน้ำรวมกันทั้งหมด เมื่อเทียบกับความต้องการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้ง(เริ่ม พ.ย. – เม.ย. ของทุกปี)ของจ.ชลบุรี ที่มีความต้องการใช้น้ำประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เหลือปริมาณน้ำที่จะใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปี 2558 ประมาณ 67 ล้านลูกบาศก์เมตร และเมื่อรวมกับมาตรการที่ทางกรมชลประทานได้วางแผนในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับมือกับภัยแล้งไว้ก่อนหน้านี้ อาทิ การสูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกงมาเติมอ่างเก็บน้ำบางพระ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างฯ ส่งผลให้ในช่วงฤดูแล้งนี้ ในเขตจ.ชลบุรี มีปริมาณน้ำเพียงพอใช้อย่างแน่นอน
ส่วนในพื้นที่จังหวัดระยอง มีแหล่งน้ำประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำดอกกราย และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 238 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อรวมกับปริมาณน้ำที่จะผันมาจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ในช่วงฤดูแล้งอีกประมาณ 36 ล้านลูกบาศก์มเตร จึงทำให้มีปริมาณน้ำต้นทุนที่จะใช้ในช่วงฤดูแล้งรวมกันทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบกับความต้องการใช้น้ำในเขตจ.ระยอง ประมาณ 180 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เหลือปริมาณน้ำที่จะใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปี 2558 ประมาณ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ในขณะนี้ เพียงพอใช้ในทุกภาคส่วน ตลอดในช่วงฤดูแล้งอย่างไม่ขาดแคลน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ให้มีน้ำใช้อย่างเพียพอตลอดในช่วงฤดูแล้ง จึงขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัดน้ำและใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปด้วย