สำหรับการหายตัวไปของ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ขุนศรี รองผู้กำกับการ 6 กองปราบปรามนั้น ตามแนวทางการสืบสวนน่าเชื่อว่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับอดีต ผบช.ก. โดยขอให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพราะหากหลบหนีเกิน 15 วันก็จะถือว่าขาดราชการ และเกรงว่าอาจจะได้รับอันตราย
ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และเครือข่ายนั้นได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาดูแล โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นประธาน พร้อมประสานกับเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ร่วมตรวจสอบ ซึ่งจะทยอยส่งทรัพย์สินที่ตรวจยึดไว้ได้ให้ ปปง.ไปดำเนินการตามขั้น ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการเปิดตู้เซฟขนาดใหญ่ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ภายในบ้าน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อีกจำนวน 3 ตู้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สิน
ด้านพล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ปทส.) พร้อมด้วย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เข้าตรวจค้นร้านขายของเก่า "สวงค์แอนทีค" เลขที่ 16/5 โกดังเลขที่ 16/21 ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งหลังร้านพบโกดังสองหลัง ภายในมีไม้สัก ไม้ประดู่ และไม้มะค่า จำนวน 2,774 แผ่น ซึ่งมีตราประทับโดยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และใบเบิกทางนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านโดยมีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้รับรอง ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าไม้แปรรูปดังกล่าวได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และบุคคลใดเป็นผู้ที่ตีตราอนุญาต นอกจากนี้ยังพบไม้แปรรูปที่ประทับตรารูปดาวนำเข้ามาจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เฟอร์นิเจอร์ฝังมุก วงกบประตู โบราณวัตถุ เฟอร์นิเจอร์ไม้แปรรูปอีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนโกดังอีกหลังพบเครื่องเลื่อย อุปกรณ์การทำไม้แปรรูปและผลิตเฟอร์นิเจอร์ และไม้แปรรูปกว่า 500 แผ่น ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยจะให้โอกาสผู้ครอบครองนำหลักฐานมาแสดง นอกจากนี้ยังพบตู้เซฟ 1 ตู้ภายในโกดังดังกล่าวซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำกลับไปตรวจสอบต่อไป