สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(2 ธ.ค. 57) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 45,535 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 65 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 22,032 ล้านลูกบาศก์เมตร
ในส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 46 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของความจุอ่างฯ เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,253 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,992 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 769 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 82 ของความจุอ่างฯ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 62 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีปริมาณน้ำ 1,241 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 170 ล้านลูกบาศก์เมตร หรื่คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯ เขื่อนมูลบน จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ ฯ เขื่อนลำแซะ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 158 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯ
สำหรับในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก ที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 902 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 94 ของความจุอ่างฯ เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างฯ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี มีปริมาณน้ำ 13,081 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของความจุอ่างฯ เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี มีปริมาณน้ำ 5,297 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ