"การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องที่ 1 และหรือ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ใช้อำนาจตามมาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 42 และมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ดำเนินการกับผู้ร้องสอดทั้งสองแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ภายใน 60 วันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด คำขออื่นนอกจากนี้ขอให้ยกนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย" คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ระบุ
คดีนี้ นพ.สงคราม ทรัพย์เจริญ ที่ 1 กับพวกรวม 24 คน ได้ยื่นฟ้อง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ที่ 1 กับผู้ว่าฯ กทม.ที่ 2 ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
โดยข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เขตทางของถนนซอยร่วมฤดีมิได้มีเขตทางกว้าง 10 เมตรตลอดแนว คือมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ถึง 8 จุด การก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารของบริษัท ลาภประทาน และบริษัท ทับทิมทร ซึ่งเป็นผู้ร้องสอดทั้งสองจึงไม่ชอบด้วยข้อ 2 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 33(พ.ศ.2535) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้ใช้อำนาจตามมาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 42 และมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ดำเนินการกับผู้ร้องสอดทั้งสอง ซึ่งก่อสร้างอาคารขัดต่อข้อ 2 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 33(พ.ศ. 2535) ออกตามความใน พ.ร.บ.ดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองจึงละเลยต่อหน้าที่ตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กำหนดให้ต้องปฏิบัติ