สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน (30 ธ.ค.57 – 4 ม.ค. 58) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,733 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 302 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,843 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 13 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ อุตรดิตถ์ 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เพชรบุรี 20 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 4 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นราธิวาส สิงห์บุรี และนครพนม จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 122 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 15 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 119 คน
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 5 วันที่ผ่านมา พบว่า ดื่มแล้วขับ เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสุดที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน แต่จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 4 มกราคม 2558 ซึ่งเป็นวันหยุดวันสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ 2558 พบว่า การขับรถเร็วเกินกำหนด การขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในอัตราที่ใกล้เคียงกับการดื่มแล้วขับ จึงประสานให้จังหวัดกำชับจุดตรวจเข้มงวดผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าว เน้นการเรียกตรวจยานพาหนะให้มากขึ้น รวมถึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเส้นทางสายหลัก โดยเฉพาะจุดเสี่ยงบนถนนสายหลัก จุดตัดทางรถไฟ ควบคู่กับการดูแลถนนสายรอง โดยเฉพาะจุดตัดทางรถไฟที่เป็นทางลักผ่าน ให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดอาสาสมัครดูแลเส้นทางดังกล่าวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ด้านนายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยวแล้ว ขณะที่ยังมีเพียงบางส่วนอยู่ระหว่างการเดินทาง ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพการจราจร พบว่า หลายเส้นทางมีปริมาณรถน้อย โดยเฉพาะถนนสายหลักของ จังหวัดใหญ่และเส้นทางจากภูมิภาคต่างๆ เข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูง จึงขอเน้นย้ำให้จังหวัดเข้มงวดผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจร เพิ่มมาตรการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่ และพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท กวดขันรถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกินอัตรากำหนด เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความรุนแรงของอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญจากการ ใช้ความเร็ว และความประมาทของผู้ขับขี่ จึงขอฝากผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็ว ไม่ประมาท ไม่ขับรถด้วยความคึกคะนอง คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมใช้เส้นทางเป็นหลัก เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสภาพอากาศ พบว่า หลายพื้นที่มีหมอกลงหนาแน่นในช่วงเช้า ซึ่งทัศนวิสัยไม่ดีอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ ขอฝากจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ไม่ขับรถเร็ว ไม่แซงในระยะกระชั้นชิด เว้นระยะห่างจากรถคันอื่น ให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง