โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นวันที่น่าประทับใจ และทำให้นึกย้อนถึงชีวิตในวัยเด็ก ที่ตื่นเต้นทุกครั้ง เมื่อได้ร่วมสนุกในวันเด็ก แต่เมื่อทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลา ทั้งสภาพสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทัน และถ้าไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก หรือเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วไปไหนมีคนมารอต้อนรับคงจะดีใจ
“แต่เมื่อได้มาทำหน้าที่ ทำให้ต้องคิดถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นในการสร้างอนาคตของประเทศ วางรากฐานให้กับเด็กและเยาวชนในช่วงเวลาที่จำกัด ซึ่งต้องมีการพัฒนาในด้านการศึกษา ที่ต้องได้มาตรฐาน มีการศึกษาเล่าเรียนอย่างมีความสุข ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา โดยยึดหลักของความพอเพียง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน และเมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ทุกคนจึงจำเป็นต้องมีหลักยึดประจำตัว คือยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญต้องเคารพพ่อแม่ ซึ่งถือเป็นพระที่ดีของบ้าน และต้องการให้เด็กๆ ตอบแทนพระคุณ ด้วยการศึกษาหาความรู้ ขยันหมั่นเพียร
“นอกจากนี้ ในวันเด็ก อยากให้เด็กๆ เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ ในการสร้างกฎระเบียบที่ดีให้ตัวเอง เช่น ไม่โกหก ไม่นอนตื่นสาย รักและเคารพพ่อแม่ ไม่เล่นเกมส์ตอนกลางคืน และทำการบ้านก่อนเล่นเกมส์ ขณะเดียวกัน ยังอยากให้เด็กได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติที่น่าภูมิใจ ที่จะมีพื้นฐานที่ดีในการเดินหน้าไปสู่อนาคตได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว