ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมว่า ภายในปีนี้ต้องมีการบริหารจัดการในเรื่องการลดพื้นที่การเกิดน้ำท่วมและเกิดภัยแล้งซ้ำซาก นอกจากนี้กรมทรัพยากรน้ำจะดำเนินการเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในท้องที่ที่ยังขาดแคลนกว่า 7 พันแห่ง ให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 พร้อมทั้งจะเพิ่มพื้นที่การทำชลประทาน และการหาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น บึงบอระเพ็ด เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการรองรับน้ำ และเน้นพัฒนาแหล่งน้ำชุมชน
ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมให้หาแนวทางการแก้ไขและบริหารจัดการน้ำเค็ม จากเดิมจะใช้วิธีการผลักดันน้ำเค็มออกไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้หาแนวทางอื่นมาช่วยเสริม
นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคนั้น กรมฯ จะดำเนินการหาแหล่งน้ำบาดาลมาทำระบบปะปา ซึ่งมีปัญหาอยู่ประมาณ 9,535 หมู่บ้าน พร้อมทั้งจะส่งเสริมการนำน้ำบาดาลมาใช้เพื่อการเกษตร โดยจะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ที่ทำการเพราะปลูกเพิ่มมากขึ้น
ส่วนกรณีการผลักดันน้ำเค็มที่เข้ามาในอ่าวไทย ซึ่งมีแม่น้ำท่าจีน, แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบ คลอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัดนั้น กรมฯ จะดำเนินการเข้าไปผลักดันน้ำเค็มเหล่านั้นออกไปจากพื้นที่ต่อไป