ขณะเดียวกันขอให้รื้อฟื้นคดีของวัดพระธรรมกายขึ้นมาพิจารณาอย่างเป็นธรรม โปร่งใส พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้ สปช. วางโครงสร้างและจัดตั้งองค์คณะพิทักษ์คุ้มครองพระพุทธศาสนาบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย
พระพุทธะอิสระ ได้กล่าวถึงการหารือกับนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ว่า มีความเห็นตรงกันว่าจะต้องมีการปฏิรูปศาสนา โดยเฉพาะการทำงานของมหาเถรสมาคมซึ่งจะต้องมีบุคคลากรเข้าไปช่วยเหลือในการทำงาน ตรวจสอบเพื่อให้รวดเร็ว โดยเพราะคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางพุทธศาสนา เช่น กรณีวัดพระธรรมกาย เป็นต้น
โดยจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือกับม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และเดินทางไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้รับคดีของวัดพระธรรมการเป็นคดีพิเศษ
พระพุทธอิสระ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวของตนในครั้งนี้ไม่คิดว่าจะให้คณะสงฆ์แตกแยกเหมือนการร่างรัฐธรรมนูญในปี 40 ที่มีคณะสงฆ์ออกมาเรียกร้องสถานภาพของสงฆ์ แต่การเรียกร้องครั้งนี้ต้องการให้กลับไปสู่หลักคิดเดิม รากเหง้าเดิมของพระพุทธศาสนา เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยก
"การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้ขัดกฎอัยการศึก เพราะขออนุญาตก่อนแล้ว และทุกครั้งที่จะทำอะไรก็ขออนุญาตก่อนตลอด"พระพุทธะอิสระ กล่าว