"การที่ธนาคารไทยพาณิชย์ให้เงินเพื่อดูแลความเสียหายแก่ สจล.ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาทในครั้งนี้นั้น ธนาคารยึดหลักธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคม ซึ่งกรณีนี้ได้ปรากฎว่ามีพนักงานของธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต ธนาคารจึงแสดงความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ สจล." นายวิชิต กล่าว
พร้อมระบุว่า ธนาคารเห็นว่าหากปล่อยให้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างสถาบันยืดเยื้อต่อไป จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อทั้ง 2 สถาบัน และอาจส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งในภาคเศรษฐกิจและการศึกษาของประเทศ เพราะธนาคารเป็นหนึ่งในสถาบันหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกับ สจล.ที่เป็นหนึ่งในสถาบันหลักด้านการศึกษา ทั้ง 2 สถาบันจึงเห็นพ้องกันให้ดำเนินการยุติเรื่องโดยเร็ว ส่วนเรื่องการเอาผิดตามกฎหมายก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทั้ง 2 สถาบัน พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดีที่สุดเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
ด้าน ศ.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี สจล. กล่าวว่า สถาบันขอขอบคุณธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในการแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทั้ง สจล.และธนาคารไม่ต้องการที่จะให้เกิดขึ้นอีก โดยในส่วนของ สจล. แล้วต้องถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องรีบดำเนินการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ในส่วนของการบริหารจัดการทางด้านการเงินของ สจล.ก็จะมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ทุกกระบวนการในการทำธุรกรรมทางด้านการเงินสามารถตรวจสอบได้ ด้านคดีความ สจล. ก็จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด และเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความถูกต้องและยุติธรรมกับทุกฝ่าย