"ผบ.ทบ.ก็บอกแล้วน่าจะเป็นระเบิดที่เอามาทิ้ง ทุกทีก็ทิ้วตลอดเรี่ยราดไปหมด มันทิ้งตรงนั้นแสดงว่ามันเข้าไป(บริเวณจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรสุดสัปดาห์นี้)ไม่ได้ถ้ามันจะทำผม...กลัวเรื่องอะไร ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว ทำความดีพระคุ้มครอง ตอนนี้เขากำลังเข้มงวดอยู่ มันก็กลัวก็เอามาทิ้ง"พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่คิดว่าเป็นการดิตเครดิตกองทัพ เพราะถุงบรรจุในลักษณะดังกล่าวสามารถหาซื้อได้ เช่นเดียวกับตราหรือสติ๊กเกอร์ทหารที่หาได้ทั่วไป อีกทั้งไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มการเมืองเก่า แต่ได้มีการติดตามตรวจสอบ และยังไม่มีการเพิ่มกฎหมายพิเศษ เพราะกฎอัยการศึกยังมีการบังคับใช้อยู่ และยังใช้ไม่ครบ ทุกมาตรา
อย่างไรก็ตาม นับจากนี้สั่งการให้ทุกจังหวัดระดมกวาดล้างอาวุธสงครามต่อไป และตรวจสอบอย่างเข้มงวดจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากเจอจะมีการลงโทษผู้ทำผิดอย่างหนัก
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีไปยังต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้ประสานความร่วมมือไปยังประเทศที่ผู้ต้องหาอาศัยอยู่ แต่ไม่ขอระบุรายละเอียดว่าประเทศใดให้ความร่วมมือบ้าง แต่เบื้องต้นยังพบว่ามีการกระทำผิดมาตรา 112 อย่างต่อเนื่อง โดยปลุกระดมผ่านทางวิทยุ เช่น นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และนายเอนก ซานฟราน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลอยู่แล้ว
สำหรับการเดินทางไปร่วมงานศพรนายลี กวน ยู รัฐบุรุษของประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 29 มี.ค.ซึ่งใกล้เคียงกับวันที่มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินรทางไปยังสิวคโปร์ในวันที่ 28 มี.ค.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เชื่อว่ารัฐบาลสิงคโปร์คงจะจัดการไม่ให้พบกันแน่นอน เพื่อไม่ให้เกิดความอึดอัดใจ
"มันเกี่ยวอะไรกับผม เขาคงไม่ปล่อยให้ผมไปเจอให้อึดอัด ผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว ผมไปจับใครเองก็ไม่ได้ ผมไปร่วมงานศพ" พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ การบริหารงานของสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ว่า จะต้องตรวจสอบใน 2 ประเด็น คือการบริหารจัดการในองค์กร และตรวจสอบเรื่องการทุจริต ซึ่ง คณะกรรมการป้องกันปละปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)เข้าไปตรวจสอบ และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ร่วมถึงนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารสุข ว่าได้ทำผิดหรือไม่ แต่ในส่วนของวินัยข้าราชการ ต้องรับฟังและเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา แต่หากขัดระเบียบ มีการขั้นตอนร้องเรียนผู้บังคับบัญชา โดยสามารถยื่นหนังสือมาที่ตนเอง ซึ่งมีระเบียบราชการกำหนดไว้แล้ว