ทั้งนี้ แม้ว่ากทม.จะไม่ได้ตั้งรับฝนนอกฤดู แต่กทม.ก็สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้นถนนอโศกมนตรีซึ่งใช้เวลาระบายน้ำนานกว่าจุดอื่นๆ เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวมีทางระบายน้ำเชื่อมต่อกับคลองแสนแสบ ขณะเดียวกันคลองแสนแสบเป็นคลองสำคัญและการพร่องน้ำในฤดูแล้งจะส่งผลต่อเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ตะวันออกของกรุงเทพฯ รวมถึงประชาชนจำนวนมากใช้คลองแสนแสบเป็นเส้นทางสัญจรทางเรือ ซึ่งหากกทม.ต้องเร่งพร่องน้ำออกจากคลองในขณะที่ยังอยู่ระหว่างสถานการณ์ภัยแล้ง ตนเองยอมไม่ได้
ดังนั้นกทม.จะทำ 2 อย่างควบคู่กันไป คือ สั่งการให้เตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่ก็ไม่ละเลยปัญหาภัยแล้งเช่นเดียวกัน โดยสถานการณ์ฝนตกวานนี้เป็นเรื่องดีสำหรับพื้นที่เกษตรและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีน้ำท่วมห้างโรบินสัน สาขาสุขุมวิท ซึ่งมีภาพปรากฏทางสื่อแขนงต่างๆ นั้น ทางห้างสรรพสินค้าควรออกมาชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากเป็นอาคารเก่าที่สร้างมานานกว่า 30 ปี อีกทั้งมีปัญหาการระบายน้ำไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากกทม. ในส่วนของถนนพระราม 9 ซอย 7 นั้น เป็นถนนเอกชน ซึ่งกทม.ได้พยายามเข้าไปประสานเจ้าของพื้นที่เพื่อขอเข้าไปปรับปรุงแก้ไขแต่ภาคเอกชนบางรายไม่ยินยอมให้เข้าไปดำเนินการ ดังนั้นจากปัญหาที่เกิดขึ้น กทม.ขอให้ภาคเอกชนส่งมอบถนนหรือทางให้เป็นสาธารณะเพื่อราชการจะเข้าไปดำเนินการแก้ไขต่อไป
พร้อมกันนี้ในช่วงเวลาฝนตก ข้าราชการและลูกจ้างกทม.ไม่ได้วางเฉยหรือนิ่งนอนใจต่อการทำหน้าที่ ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการเร่งระบายน้ำจากผิวจราจรและพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เร็วที่สุด โปรดอย่าได้กล่าวตำหนิผู้ปฏิบัติงานเนื่องจากจะเป็นการบั่นทอนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกันอย่างเข้มแข็งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการรับมือฝนตกหนักของกรุงเทพมหานคร ดังนี้ 1.ให้ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมเฝ้าติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามสภาพอากาศจากเรดาห์พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ 24 ชั่วโมง พร้อมรับแจ้งปัญหาน้ำท่วม โทร.0 22485115 2.เตรียมพร้อมการพร่องน้ำตามคลองต่างๆ ให้อยู่ในระดับต่ำสุด โดยสถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำ รวมถึงการพร่องน้ำตามแก้มลิงต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 25 แห่ง ปริมาตรเก็บกักน้ำ 13.04 ล้านลูกบาศก์เมตร ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เปิดทางน้ำไหล ขุดลอกคูคลอง และเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำชั่วคราวเพื่อติดตั้งในจุดอ่อนน้ำท่วม
3.จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หรือหน่วย BEST ของกทม.ที่มีอยู่ 95 หน่วย เตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและรถเสียจากน้ำท่วม 4.ประสานงานหน่วยงานต่างๆ เช่น ตำรวจ การไฟฟ้านครหลวง กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานภายในของกรุงเทพมหานคร
"เหตุการณ์ฝนตกหนักที่เกิดขึ้นวานนี้ แสดงถึงศักยภาพของกทม.ว่าสามารถรับมือได้ ขณะที่พื้นที่อุโมงค์ยักษ์พระราม 9 มีการระบายน้ำอย่างเป็นระบบและไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม แม้จะยังอยู่ในช่วงของการเตรียมแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไป ทั้งการตรวจสอบระบบและขุดลอกคูคลอง การซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำและประตูระบายน้ำเพื่อรองรับหน้าฝนที่จะมาในช่วงเดือน พ.ค. แต่ยังสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้กทม. อยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อซึ่งจะพร้อมใช้งานในปี 59 จะทำให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนั้นประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก กทม.มั่นใจรับมือได้"ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ฝนตกหนัก ซึ่งปริมาณน้ำฝนสูงสุดวัดได้บริเวณพื้นที่เขตบางรักและสาทร 73.5 มม. เขตมีนบุรี 70 มม. สวนเบญจสิริ เขตคลองเตย 67 มม. และดินแดง 55 มม. ซึ่งพบว่าเกิดน้ำท่วมขังหลายจุด เช่น ถนนเพชรบุรี แยกอโศก-แยกมิตรสัมพันธ์ ระดับน้ำขังสูง 15 ซม. ถนนอโศก หน้าบริษัทชิโนทัย 40 ซม. ซอยช่อง 9 อ.ส.ม.ท. 30-40 ซม. ถนนเจริญกรุง หน้าโรบินสัน 15 ซม. ถนนพัฒนาการ 15-20 ซม. ถนนสวนพลู 15 ซม. ถนนศรีอยุธยา 10-15 ซม. ถนนรัชดาภิเษก (หน้าสถานทูตจีน) 25 ซม. ถนนดินแดง หน้าตลาดขวัญ 40 ซม. ถนนประชาสุข 20 ซม. ถนนประชาสงเคราะห์ 10-15 ซม. ถนนสนามไชย หน้าวัดโพธิ์ 10-15 ซม. โดยรอบสนามหลวง 10-15 ซม. และถนนสุรวงศ์ บริเวณใต้ทางด่วน 10-15 ซม. นอกจากนี้ยังเกิดไฟฟ้าขัดข้องหลายจุด เช่น บริเวณเขตดินแดง ทำให้ไฟฟ้าดับโดยรอบ ซึ่งกทม.ได้ประสานการไฟฟ้าให้รีบดำเนินการแก้ไข เนื่องจากทำให้ระบบสูบน้ำทำงานได้ยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องสูบน้ำเร่งระบาย เก็บขยะ ใบไม้หน้าตะแกรง ฯลฯ ทั้งนี้ ในเวลา 15.00 น. ฝนลดกำลังลง คงเหลือในบางพื้นที่ และน้ำท่วมส่วนใหญ่แห้งเป็นปกติ ซึ่งโดยทั่วไปใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำประมาณ 1-2 ชั่วโมงยกเว้น ถ.อโศกมนตรี ที่ใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำให้เข้าสู่สภาวะปกติประมาณ 3 ชั่วโมง