ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้บูรณาการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง แบ่งการดำเนินงานเป็น 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) การแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรจัดรถบรรทุกน้ำ จำนวน 249 คัน รถผลิตน้ำดื่ม 23 คัน ออกให้บริการแจกจ่ายน้ำ จำนวน 7,818 เที่ยว รวมปริมาณน้ำ 41,150,200 ลิตร 2) การสนับสนุนน้ำดิบแก่พื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง จัดเครื่องสูบน้ำ 57 เครื่อง รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 23 คัน สูบน้ำจากแหล่งน้ำดิบไปยังถังเก็บน้ำกลางประจำหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอในช่วงฤดูแล้ง
3) การจัดสรรน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตร จากการสำรวจข้อมูลพื้นที่การเกษตร คาดว่าพื้นที่สวนจะได้รับผลกระทบ 5,725,896 ไร่ เสียหายจำนวน 639,300 ไร่ ซึ่งจะได้เร่งจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร ป้องกันมิให้พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ 4) การสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สนับสนุนการซ่อม/สร้างทำนบและฝายเก็บน้ำ จำนวน 472 แห่ง ขุดลอกแหล่งน้ำ จำนวน 10 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง 5) การดำเนินโครงการฟื้นฟูบูรณะแหล่งน้ำเดิม แก้ไขปัญหาน้ำท่วม – น้ำแล้ง โดยดำเนินการขุดลอกแหล่งน้ำและปรับปรุงสภาพลำน้ำที่ตื้นเขินในพื้นที่ประสบภัยแล้งและอุทกภัยซ้ำซากทุกจังหวัด รวมจำนวน 776 โครงการ เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ จะมีประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน 627,209 คน
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งน้อยที่สุด