น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า เหตุแผ่นดินไหวเมื่อกลางดึกที่เกาะยาว จ.พังงา เป็นอาฟเตอร์ช็อคต่อเนื่องจากแผ่นดินไหว 4.6 ริกเตอร์ เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) เป็นการคลายตัวลดพลังของรอยเลื่อนคลองมะรุย โดยจากวานนี้จนถึงวันนี้เกิดอาฟเตอร์ช็อคแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งหลังจากนี้อาจจะยังมีอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกเป็นระยะๆ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังตัว อย่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยง อย่าตื่นตระหนก ติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง และขอให้มั่นใจระบบเตือนภัยของประเทศไทย
"เหตุแผ่นดินไหวติดต่อกัน 2 วัน เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่ารอยเลื่อนที่มีพลังยังสามารถไหลและสร้างแรงสั่นสะเทือนให้คนในพื้นที่ได้ แต่ก็การบ่งบอกที่ดีคือ ทำให้รอยเลื่อนมีพลังนี้เกิดการคลายตัว ลดพลัง ยิ่งเกิดอาฟเตอร์ช็อคบ่อยยิ่งเป็นการคลายพลัง และรอยเลื่อนคลองมะรุยนี้ไม่เกี่ยวกับรอยเลื่อนที่เนปาล รอยเลื่อนที่ปาปัวนิวกินี และไม่เกี่ยวกับรอยเลื่อนที่เชียงราย"น.อ.สมศักดิ์ กล่าว
ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ กล่าวต่อว่า อยากให้ย้อนดูเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เชียงรายเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีอาฟเตอร์ช็อคตามมาพันกว่าครั้ง ซึ่งทั้งหมดคือการคลายพลัง
อย่างไรก็ตาม รอยเลื่อนในประเทศไทยเป็นรอยเลื่อนขนาดเล็กและสั้น ไม่เหมือนที่เนปาล เป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ มีความยาวเป็นพันกิโลเมตร รอยเลื่อนยิ่งใหญ่และยาวยิ่งปล่อยพลังความรุนแรง ความเสียหายที่ตามมาค่อนข้างมาก ซึ่งในประเทศไทยมีรอยเลื่อนมีพลัง 13-14 รอยเลื่อน แต่ละรอยเลื่อนมีขนาดสั้นและเล็ก